สงครามเดือดทุบหุ้นไทยร่วง 13 จุด หลังขึ้นตามแรงซื้อวายุภักษ์-สถาบันซื้อสูงสุดรอบ 1 ปี 4 เดือน

สงครามเดือดทุบหุ้นไทยร่วง 13 จุด หลังขึ้นตามแรงซื้อวายุภักษ์-สถาบันซื้อสูงสุดรอบ 1 ปี 4 เดือน

วันที่ 2 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,464.66 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,451.40 จุด ปรับลดลง 13.26 จุด หรือลบ 0.91% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,464.27 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,447.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 57,926.56 ล้านบาท

นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นปรับฐานลงจากจิตวิทยาของตลาดในภาพรวม ที่ถูกกดดันจากความเสี่ยงในตะวันออกกลาง หลังอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล เพื่อตอบโต้กรณีอิสราเอลสังหารผู้นำกลุ่ม Hezbollah ซึ่งหากไปกระทบแหล่งผลิตน้ำมัน อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งต่อในช่วงสั้น ฝั่งปัจจัยภายในประเทศ กระทรวงการคลังได้แถลงเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับปี 2568 โดยงบประมาณที่จะใช้กระตุ้นมีทั้งหมด 1.87 แสนล้านบาท น่าจะเป็นการใช้กับดิจิตอลวอลเล็ตเฟส 2 เป็นหลัก ผนวกกับมาตรการอื่นๆ ในแผนการ อาทิ ของขวัญปีใหม่ 2568 รวมทั้งมาตรการคนละครึ่ง และเราเที่ยวด้วยกัน ที่มีแนวโน้มจะออกมาในช่วงปีหน้าเป็นต้นไป

“ดัชนีลดความร้อนแรงขาบวกลง โดยมีแรงซื้อจากฝั่งนักลงทุนสถาบันในประเทศที่แข็งแกร่งกว่าช่วงที่ผ่านมา มูลค่าซื้อสูงสุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน โดยส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเม็ดเงินลงทุน (โฟลว์) ซื้อจากกองทุนวายุภักษ์ 1 ซึ่งเริ่มลงทุนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เป็นวันแรก ทำให้นักลงทุนสถาบันมีความสนใจหุ้นไทยมากขึ้น โดยหุ้นธนาคารและค้าปลีกค่อนข้างเด่น สอดคล้องกับที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้” นายรักพงศ์ กล่าว