เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่กระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายหลังจากการหารือระหว่าง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการะทรวงการคลัง กับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ผลการหารือครั้งนั้นเป็นเชิงบวก มีความเข้าใจตรงกันมากขึ้น มีมุมมองทางเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น และฝั่ง ธปท.ได้รับทราบความกังวลของกระทรวงการคลัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความผันผวนของค่าเงินที่แข็งค่ามากเมื่อเทียบกับในภูมิภาค เรื่องกรอบเงินเฟ้อ หรือเรื่องความต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้
นายเผ่าภูมิกล่าวว่า “คลังคาดหวังว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะถูกหยิบยกไปคุยในคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. เพื่อช่วยพิจารณาว่าจะมีการปรับหรือไม่ปรับดอกเบี้ย ได้มีข้อมูลที่ความครบถ้วนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ผลจะเป็นอย่างไรเป็นอำนาจของ กนง.ที่ต้องให้เกียรติกัน ส่วนการขยายกรอบเงินเฟ้อ กรอบเงินเฟ้อมีสองมิติ คือ มิติแรก กรอบนั้นเหมาะสมหรือไม่ และอีกมิติ ถ้าเงินเฟ้อไม่เข้ากรอบจะดำเนินการอย่างไร”
ส่วนเรื่องการคัดสรรประธานคณะกรรมการ ธปท.คนใหม่นั้น นายเผ่าภูมิกล่าวอีกว่า ขอไม่พูดถึงตัวบุคคล และไม่พูดถึงกระบวนการคัดสรรว่ามีการดำเนินการอย่างไร แต่พูดถึงหลักการการแต่งตั้งว่า เวลาดูเรื่องคนที่เหมาะสม ต้องพิจารณาให้รอบด้าน โดยพิจารณาจากความรู้ความสามารถ ประสบการณ์และทักษะในมิติของการเงินและการคลัง ทั้งนี้ อยากเห็นการทำงานระหว่าง ธปท.และคลัง ที่ควบคู่และใกล้ชิดกัน ก็อาจมีการเห็นตรง หรือเห็นต่างกันบ้าง ยิ่งมีการทำงานใกล้กัน ยิ่งต้องมีการแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น
“อย่างไรก็ตาม ไมว่าใครจะมาเป็นประธานคณะกรรมการ ธปท.คนใหม่ กระทรวงการคลัง และ ธปท.จะต้องปรับจูนกัน หารือกัน แลกเปลี่ยนกัน มองเศรษฐกิจให้ตรงกัน” นายเผ่าภูมิกล่าว
