นายภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) สายงานกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมาการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ประชุมได้อนุมัติให้ยกเลิกใบอนุญาต 11 ช่องรายการ ของบริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ได้แก่ BBC Entertainment, Cbeebies, Block A, MUTV, National Geographic, Discovery Science, DMAX, EVE, Discovery Kids, FASHION ONE, และ M พร้อมกับให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ไปดูเรื่องแผนเยียวยาให้สอดคล้องกับกรณีการขอยกเลิกกลุ่มช่องรายการ HBO โดยให้ ทรูวิชั่นส์ จัดส่งแผนเยียวยามา 30 วัน
นายภักดี กล่าวว่า บอร์ด กสท. ยังได้มีมติสนับสนุนการลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีในกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดิน ในรายการที่ถือเป็นรายการข่าวสารสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ได้แก่ รายการที่ออกอากาศในโทรทัศน์ระบบดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป ระยะเวลา 30 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง, รายการเดินหน้าประเทศไทย, รายการคืนความสุขให้คนในชาติ รายการที่เกี่ยวกับ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ออกอากาศพิเศษในปี 2559, รายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน, รายการที่เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ แนวความคิด และปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสารคดีเทิดพระเกียรติพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ออกอากาศรายการพิเศษในปี 2559
อย่างไรก็ตาม การลดหย่อนค่าธรรมเนียมโดยคำนวณนับจากสัดส่วนรายการในการให้บริการที่มีการออกอากาศตามผังรายการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ และเป็นการออกอากาศจริง และการคำนวณสัดส่วนรายการดังกล่าว ไม่ให้นำรายการข่าวสารสาระหรือสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมาออกอากาศซ้ำในช่วงเวลาอื่นมาคำนวณ
นายภักดี นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณา การออกอากาศเนื้อหารายการ Wake Up News ทางช่อง วอยซ์ ทีวี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ได้นำเสนอประเด็น “ดีเอสเผยคลิปนาที เจ้าหน้าที่สาวถูกพระธรรมกายตบกล้อง” และ “โพลล์เผย 2 ปี 6 เดือน ประชาชนปลื้มบิ๊กตู่น้อยลง” โดยนำความเห็นของผู้ชมมาอ่านในรายการ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่อาจเข้าข่ายขัดต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 ฉบับที่ 103/2557 รวมทั้งอาจขัดต่อข้อกำหนดในบันทึกข้อตกลงที่ได้ทำไว้ร่วมกับสำนักงาน กสทช. และ มาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 โดยภายหลังการพิจารณาแล้ว บอร์ด กสท. ได้มีมติให้คณะอนุกรรมการด้านผังและเนื้อหารายการไปพิจารณาข้อกฎหมายเพิ่มเติมว่าผิดหรือไม่และให้นำเสนอบอร์ด กสท.ภายในสัปดาห์หน้า
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. และ กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะคณะอนุกรรมการด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า การขอยกเลิกทั้ง 11 ช่องรายของทางทรูวิชั่นส์ แม้บางช่องรายการ ได้มีการยุติการให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2559 แต่ไม่อาจพิจารณาได้ว่ามีการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคหรือไม่ ซึ่งบริษัทไม่ได้แสดงหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ามีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนมีการเปลี่ยนแปลง อนุกรรมการฯได้มีข้อเสนอให้แจ้งบริษัทต้องปฏิบัติตามข้อ 15 วรรคแรกของประกาศ กสทช. เรื่องมาตรฐานของสัญญาการให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก พ.ศ. 2556 ซึ่งกำหนดว่า มีหน้าที่ต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเคร่งครัด และในกรณีที่มีการขอยกเลิกใบอนุญาต จะต้องเก็บและแนบหลักฐานการแจ้งให้ผู้ใช้บริการ เพื่อใช้ประกอบการขอยกเลิกใบอนุญาตต่อ กสท.
