นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีการประเมินภาษี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ป ที่จะหมดอายุความในวันที่ 31 มีนาคมนี้ว่า มอบให้รองปลัดกระทรวงการคลัง นายประภาศ คงเอียด ไปพิจารณา ซึ่งก่อนหน้านี้กรมสรรพากร ระบุว่าเป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องเสียภาษี แต่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) มีข้อสงสัยมาและเสนอให้ขยายเวลาการตรวจสอบภาษี ต้องตรวจสอบให้ครบถ้วนก่อนที่อายุความจะหมด
“ตอนแรกคิดว่า กรณีดังกล่าวจะจบในชั้นของกรมสรรพากรแล้ว แต่เมื่อมีประเด็น เรื่องการใช้อำนาจของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการขยายอายุความ ถือเป็นข้อมูลใหม่ ต้องนำเรื่องนี้มาพิจารณาอีกครั้ง เพราะไม่อยากเป็นจำเลยสังคม”นายสมชัย กล่าว
นายประภาศ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในการประชุมไม่ได้หารือถึงการเก็บภาษีจากหุ้นชิน โดยตรง แต่เป็นการพิจารณาข้อหารือของกรมสรรพากร กรณีการใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามมาตรา 3 อัฎฐวรรคสองแห่งประมวลรัษฎากร เพื่อขยายอายุความการออกหมายเรียก ตามมาตรา 19 ประมวลรัษฎากร ที่กำหนดออกหมายเรียกเพื่อประเมินภาษีภายใน 2 ปีขยายอีก 3 ปีรวมเป็น 5 ปี กรมสรรพากรหารือมาว่าหากตรวจพบข้อมูลใหม่ หรือพบการยื่นภาษีที่ไม่ถูกต้องในปีที่ 6 หรือ 7 กรมสามารถขยายเวลาการออกหมายเรียกเป็น 10 ปี ตามอายุความของภาษีได้หรือไม่เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการเรียกเก็บภาษีกับผู้เสียภาษีทั่วไป เพราะตามปกติ มาตรา 3 อัฎฐวรรคสอง จะนำมาใช้ขยายเวลากรณีให้คุณกับผู้เสียภาษี แต่ไม่เคยนำมาใช้กรณีให้โทษผู้เสียภาษี แม้อายุความภาษี 10 ปี แต่ถ้าไม่ออกหมายเรียกภายใน 5 ปี ถือว่าไม่สามารถจัดเก็บภาษีดังกล่าวได้อีกแล้ว
นายประภาศ กล่าวว่า คณะกรรมการถกเรื่องนี้พอสมควร มีการยกประโยชน์ของการขยายเวลาเพื่อประเทศชาติ หรือเพื่อจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ สุดท้ายมีข้อสรุปคือ ไม่สามารถขยายเวลาได้ เพราะตามมาตรา 19 กำหนดในเรื่องการออกหมายเรียกไว้ชัดเจนแล้ว ดังนั้นจะสรุปเรื่องนี้เพื่อเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.) ส่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของกรมสรรพากรต่อไป
“ในการสรุปเรื่องการขยายเวลาในครั้งนี้ คงนำไปสรุปกรณีการจะจัดเก็บภาษีกรณีหุ้นชินไม่ได้ เพราะในการเก็บภาษีดังกล่าวต้องพิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และที่ผ่านมามีการถกเถียงเรื่องนี้มาพอสมควร มีความเห็นทั้งควรเก็บภาษีและไม่เก็บภาษี แม้ว่าการยึดทรัพย์คดีดังกล่าวจะสิ้นสุดไปแล้ว แต่การพิจารณาเรื่องการจัดเก็บภาษีเงินได้ถือเป็นคนละส่วนกัน เพราะหน้าที่การเสียภาษียังคงมีอยู่”นายประภาส กล่าว
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรณีภาษีหุ้นชินนั้นยุติการประเมินภาษีเมื่อช่วงปี 2554 ก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ส่วนกรณีการขยายอายุความภาษีตามมาตรา 3 อัฎฐวรรคสองแห่งประมวลรัษฎากร ตามข้อเสนอของสตง.นั้น กรมสรรพากรเคยชี้แจงไปแล้วว่าจะขยายได้กรณีให้คุณกับผู้เสียภาษี ที่ผ่านมาไม่เคยขยายเวลาเพื่อไปกล่าวโทษผู้เสียภาษี ดังนั้นคงต้องเป็นไปตามที่คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีสรุป
