นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชาชนกังวลว่าปริมาณน้ำที่กรมชลประทานสำรองไว้จะไม่เพียงพอ สำหรับอุปโภคบริโภค จึงแห่ซื้อถังขนาดใหญ่สำหรับเก็บตุนน้ำไว้ใช้ หากขาดแคลนน้ำขึ้นมา เรื่องนี้กรมชลประทานยืนยันว่าปริมาณน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภค จะสามารถเพียงพอต่อการใช้จนสิ้นฤดูแล้งปีนี้ โดยสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ มีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 3,068 ล้าน ลบ.ม. คงเหลือน้ำใช้การได้จนถึงเดือนมิถุนายน จากการระบายน้ำ 4 เขื่อนหลัก รวมกันประมาณวันละ 18 ล้าน ลบ.ม.
นายสุรพลกล่าวว่า สำหรับการเพาะปลูกข้าวนาปรังลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่า มีพื้นที่ทำนาปรังไปแล้วกว่า 1,960,000 ไร่ มีแนวโน้มทรงตัว ปัจจุบันเก็บเกี่ยวแล้ว 240,000 ไร่ คงเหลือพื้นที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวอีก 1,720,000 ไร่ น้อยกว่าปี 2557/58 เนื่องจากกระทรวงเกษตรฯ ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และรณรงค์ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ใช้น้ำอย่างประหยัด โดยเฉพาะเกษตรกรที่มีพื้นที่การเกษตรอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสายหลัก ขอให้งดสูบน้ำเพื่อทำนาปรัง เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกระทบผลผลิตเสียหายจากภาวะขาดแคลนน้ำ และปริมาณน้ำต้นทุนสำหรับการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ อาจจะไม่เพียงพอใช้ในอนาคต