หุ้น-ทองพุ่งแรง รับศาล รธน. ปัดตกคำร้อง ‘ทักษิณ-พท.‘ ล้มล้างการปกครอง หนุนการเมืองนิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,440.66 จุด ก่อนปิดตลาดในภาคบ่ายที่ระดับ 1,446.30 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 5.84 จุด หรือบวก 0.41% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,451.52 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,435.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 45,654.73 ล้านบาท
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีดีดตัวขึ้น (รีบาวด์) ขึ้นอย่างร้อนแรงกว่า 11 จุด หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องวินิจฉัย กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ปมล้มล้างการปกครอง ทำให้การเมืองเกิดความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจัยต่างประเทศก็อยู่ในโทนบวก คือ ราคาน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ ปรับตัวขึ้นสนับสนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาช่วยดันดัชนีวิ่งในแดนบวก จากช่วงเช้าที่ปรับตัวลงไปวิ่งในแดนลบ แต่เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลเรื่องสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนออกไปก่อน
ด้านราคาทองคำไทยมีการปรับเปลี่ยนราคากว่า 13 ครั้ง เป็นการปรับขึ้นครั้งแรกพรวดเดียว 300 บาท ก่อนปรับเพิ่มขึ้น 8 ครั้ง ครั้งละ 50 บาท จากนั้นปรับลดลง 4 ครั้ง ครั้งละ 50 บาท รวมเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 500 บาทต่อบาททองคำ ทำให้ราคาทองคำแท่ง รับซื้ออยู่ที่ 44,100 บาทต่อบาททองคำ ขายออก 44,200 บาทต่อบาททองคำ ทองรูปพรรณ รับซื้อ 43,312.12 บาทต่อบาททองคำ ขายออก 44,700 บาทต่อบาททองคำ ทองสปอต 2,705.50 อัตราค่าเงินบาท 34.53 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
นางสาวศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทฮั่ว เซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่องเข้าใกล้ 2,700 เหรียญสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยรัสเซียยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ทำให้สงครามรุนแรงขึ้น หลังจากที่สหรัฐ และสหราชอาณาจักร อนุมัติให้ยูเครนใช้อาวุธขั้นสูงจากชาติตะวันตกในการโจมตีดินแดนรัสเซีย รวมถึงแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ หลังประธานเฟดสาขาชิคาโกจะสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยพบการปรับขึ้นของราคาทองคำทะลุที่ 44,000 บาทอีกครั้ง บ่งชี้แนวโน้มที่สดใสของราคาทองคำแท่ง คาดว่าราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง