ส.โรงแรม-ร้านอาหาร ตื๊อคนละครึ่ง ขอรบ.หมื่นล้านบูสต์ศก.-ชี้ ท่องเที่ยว ยังซึม
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ล่าสุด ส่งผลกระทบแล้วในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส โดยประเมินผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวในเบื้องต้น เนื่องจากขณะนี้น้ำยังท่วมอยู่บริเวณรอบนอกของจังหวัด อาทิ อ.หาดใหญ่ ยังไม่เข้าในพื้นที่เศรษฐกิจ ผลกระทบในธุรกิจโรงแรมยังคาดว่าจะเป็นช่วงระยะสั้นๆ ประมาณ 1 สัปดาห์ สะท้อนจากห้องพักมีการยกเลิกการจองห้องพักล่วงหน้า ทั้งที่เป็นกรุ๊ปและเดินทางส่วนตัว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวมาเลเซีย รวมถึงการจองจัดงานสังสรรค์ที่มีการเลื่อนออกไปก่อน และขอลดจำนวนแขกลง แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์การเป็นรายชั่วโมง และหาทางการระดมป้องกันไม่ให้ปริมาณน้ำเข้ามาในพื้นที่ชั้นในของจังหวัดให้ได้
“พอสถานการณ์น้ำท่วมที่เริ่มกระจายไปในจังหวัดหลายจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดชายแดน มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียขับรถข้ามมาเที่ยวไทย เมื่อมีน้ำท่วม เกิดความไม่มั่นใจว่าเส้นทางท่องเที่ยวจะเป็นอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมาเลเซียจะขับรถข้ามด่านมา เมื่อไม่รู้ว่าเส้นทางจะเป็นอย่างไร ก็หยุดการเข้ามาก่อน แต่หากสถานการณ์กลับเข้าสู่ปกติ นักท่องเที่ยวก็จะฟื้นตัวได้เร็ว เพราะขับรถข้ามด่านมาเที่ยวเอง” นายเทียนประสิทธิ์กล่าว
นายเทียนประสิทธิ์กล่าวอีกว่า ช่วงฤดูหนาวที่กำลังมาถึงนี้ต่อเนื่องถึงต้นปี 2568 มองว่ารัฐบาลควรมีมาตรการออกมากระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการสมทบการเดินทางท่องเที่ยว ประชาชนจ่ายเอง 60% หรือ 50% ก็ได้ ทำออกมารอไว้เลย เหมือนตัวแอ่วเหนือคนละครึ่ง ที่ช่วยกระจายการใช้จ่ายในภาคเหนือได้เพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยขับเคลื่อนให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมในภาคเหนือปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
“รวมทั้ง โครงการไทยแลนด์ วินเทอร์ เฟสติวัล 2568 ที่รวบรวมเทศกาล กิจกรรมต่างๆ อาทิ เทศกาลลอยกระทง เทศกาลเคาต์ดาวน์ เทศกาลอาหาร และเทศกาลดนตรี จะมีส่วนช่วยให้เกิดการใช้จ่ายและกระจายรายได้จากการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูท่องเที่ยวช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 อย่างแน่นอน” นายเทียนประสิทธิ์กล่าว
ขณะที่ นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า การบริโภคอาหารนอกบ้าน โดยเฉพาะบริโภคตามภัตตาคาร และร้านอาหาร ยังอยู่ในบรรยากาศซึม จำนวนคน และรายจ่ายต่อหัวอยู่ในระดับต่ำ จากการพูดคุยกับสมาชิกร้านอาหาร สะท้อนว่ากำลังซื้อตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงวันนี้ เงียบกว่า 1-2 เดือนก่อนหน้านั้น วิเคราะห์กันว่ามาจากหลายสาเหตุ ทั้งคนเป็นหนี้สินสูงขึ้น ไม่มีเงินเพียงพอการกินข้าวนอกบ้านเหมือนเคยทำปกติ อีกส่วนต้องการเก็บเงินเพื่อการใช้จ่ายเทศกาลปีใหม่ และช่วงตรุษจีนปี 2568 ที่ตรงกับปลายปีเดือนมกราคม บางส่วนกังวลต่อรายได้ และเศรษฐกิจในอนาคต รอดูสถานการณ์ทางธุรกิจ ทางเศรษฐกิจ และปัจจัยภายนอกประเทศ ซึ่งหลายฝ่ายยังมองว่ายังไม่มีดีขึ้น ยังไม่ฟื้นตัวยังที่คาดหวังไว้
“สมาคมได้เสนอถึงรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ขอให้รัฐบาลใช้วงเงินงบประมาณ 10,000 ล้านบาท เข้าระบบเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการช่วยเหลือภาระประชาชน โดยเฉพาะช่วยค่าเดินทาง ค่าขนส่ง ค่าที่พัก อาจให้ประชาชนจ่ายครึ่งรัฐจ่ายครึ่ง เป็นการหยอดเงินที่ตรงจุดที่สุดในตอนนี้ที่จะฟื้นการใช้จ่าย และกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง หากจะรอไปใช้มาตรการช่วงโลว์ซีซั่น อาจไม่ทันต่อสถานการณ์โดยเฉพาะการท่องเที่ยว และการเดินทางจะเป็นช่วงวันหยุดมากกว่าช่วงวันธรรมดา เพราะคนยังติดในเรื่องเวลาการทำงาน และวันหยุดต่อเนื่อง” นางฐนิวรรณกล่าว