| ผู้เขียน | ณัฐชนัน ฐิติพันธ์รังสฤต |
|---|
เข้าสู่เดือนธันวาคม 2567 สุดท้ายของปี มีเทศกาลวันหยุดมากมาย พร้อมอีเวนต์ใหญ่ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
บทสรุปปีนี้เศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในช่วงฟื้นตัว มีทั้งปัญหาใหม่ และปัญหาเก่าเรื้อรัง
ที่น่าจับตามองคือเรื่องหนี้ครัวเรือน แม้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ระบุว่า ช่วงไตรมาสสอง ปี 2567 ขยายตัวชะลอลง มูลค่ารวม 16.32 ล้านล้านบาท ขยายตัว 1.3% จาก 2.3% ของไตรมาสที่ผ่านมา
ส่งผลให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปรับลดลงจาก 90.7% ของไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 89.6% ซึ่งการที่หนี้ชะลอลง คือสัญญาณที่ดี
แต่ในเชิงลึกพบว่า เกิดจากสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ สะท้อนจากยอดการจดทะเบียนรถยนต์ และที่อยู่อาศัยใหม่ที่ชะลอเช่นกัน เพราะลูกค้าถูกปฏิเสธสินเชื่อ
และสิ่งที่ต้องระวังต่อไป คือ คนมีหนี้ไหลไปสู่การค้างชำระ และเป็นหนี้เสียในที่สุด คนเหล่านี้อาจจะหันไปพึ่งพาหนี้นอกระบบแทน
ส่วนภาคการท่องเที่ยวและบริการ ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์หลักของประเทศ ก็ยังดำเนินไปได้ด้วยดีตลอดปี 2567 แต่อาจจะสะดุดบ้าง จากสถานการณ์น้ำท่วม และเป็นไปได้ว่าจะกลับมาดีขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่
ขณะที่ภาคเศรษฐกิจที่กลับมาดีในช่วงครึ่งปีหลัง คือ การส่งออก ขยายตัวได้ช่วง 10 เดือนแรกของปี (มกราคม-ตุลาคม) และคาดว่าจะทำให้การส่งออกทั้งปีมีโอกาสโตถึง 4%
ส่วนมาตรการกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจต่อเนื่องของรัฐบาลนั้น ยังคงมีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา อาทิ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่แบ่งออกมาเป็น 2 เฟสแล้ว แต่ก็ยังแจกไม่ครบเสียที
อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่ากังวล คือ นโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีแนวคิดเรื่องการกีดกันการค้าสูง ด้วยการเพิ่มภาษี โดยเฉพาะกับคู่แข่งอย่างจีน และอาจจะเพ่งเล็งประเทศ ที่เกินดุลการค้าแถมยังมีเรื่องปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยังไม่รู้จะจบลงไหม และถ้าจะมีความขัดแย้งรุนแรงอีก จะปะทุเมื่อไหร่ ไม่มีใครทราบได้
ยังไม่รวมถึง ปัจจัยภายในประเทศ อาทิ การเมืองไทย ที่ยังคงมีความอ่อนไหว
เพราะนอกจากฉลองส่งลาปีเก่า เรายังต้องตั้งรับกับปีใหม่ ปี 2568 ด้วย