พิพัฒน์ แนะไทยเร่งเตรียมโต๊ะเจรจาสหรัฐ หลังขู่ฟาดกำแพงภาษียักษ์กระทบภาคผลิตไทย

พิพัฒน์ แนะไทยเร่งเตรียมโต๊ะเจรจาสหรัฐ หลังขู่ฟาดกำแพงภาษียักษ์กระทบภาคผลิตไทย

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า ความกังวลการใช้นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ หลังโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีนั้น ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าสหรัฐจะทำอย่างไรกับประเทศไทย เพราะทรัมป์มาด้วยธงในการใช้นโยบายการค้า เพื่อเป้าหมายในการเจรจาในประเด็นระหว่างประเทศอื่นๆ โดยได้ประกาศว่าจะขึ้นภาษีกับจีน แคนาดา และเม็กซิโก แต่ในประเทศอื่นยังไม่ได้บอกว่าจะทำอย่างไร โดยหากฟังรัฐมนตรีคลังสหรัฐเผยเบื้องต้น พบว่า นโยบายทางภาษี จะไว้ใช้กับค่าใช้จ่ายทางการทหาร การดูแลเรื่องคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ยาเสพติด และการเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐมากขึ้น ยกตัวอย่างในเม็กซิโก แคนนาดา พูดถึงคนเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย และปัญหายาเสพติด ส่วนจีน พูดถึงการจัดการเรื่องการค้า จีนต้องซื้อของจากสหรัฐมากขึ้น แต่กับประเทศไทย ยังไม่รู้ว่าต้องการอะไรจากไทยจริงๆ ทำให้เราต้องเตรียมพร้อมในส่วนของการเจรจาว่ามีอะไรที่ประเทศไทยสามารถแลกเปลี่ยนกับสหรัฐได้บ้าง

“วิธีที่ดีที่สุดคือ อย่าให้สหรัฐมายุ่งกับประเทศไทย แต่หากทำไม่ได้ ก็ต้องคิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่สหรัฐต้องการ โดยย้อนกลับไปในช่วงการเจรจาข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) ที่ไทยกีดกันการค้าจากสหรัฐในการนำเข้าเนื้อหมูสด แจ้งว่าสหรัฐใช้สารเร่งเนื้อแดง ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีโอกาสในการกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง สิ่งที่ต้องประเมินไม่ใช่เพียงเซกเตอร์ของผู้ผลิตเพื่อการส่งออกจะเดือดร้อนเท่านั้น แม้มีความเดือดร้อนจริง ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยางรถยนต์ต่างๆ ที่ส่งออกไปสหรัฐ โดยหากสหรัฐต้องการให้เราเปิดตลาดเพิ่ม ผู้ผลิตสินค้าในประเทศจะได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ต้องมาหาว่าสิ่งที่สหรัฐต้องการคืออะไร และประเทศไทยมีอะไรที่จะให้กลับไปได้ผ่านการต่อรองบ้าง” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือ ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐประมาณ 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็นอันดับที่ 12 ของโลก ต้องติดตามว่าแล้วเมื่อใดจะมาประกาศเล่นกับประเทศไทย จะใช้วิธีจัดการทีละประเทศตามอันดับ หรือใช้วิธีประกาศขึ้นภาษีพรวดเดียวทั้งโลก ก่อนกลับมาเจรจากันอีกครั้ง โดยไทยต้องเตรียมการรับมือในการขึ้นภาษีกับไทย แต่มองว่าสหรัฐคงรู้ว่า ปรับขึ้นภาษีไปก็ไม่สามารถลดดุลการค้าที่เกินดุลลงได้ทั้งหมดแน่นอน เพราะการผลิตบางประเภทไม่สามารถกลับไปที่สหรัฐได้อีกแล้ว อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า ต้องให้ประเทศกำลังพัฒนาผลิตเพื่อส่งกลับไป ซึ่งจะมีราคาที่ถูกมากกว่า หากขึ้นภาษีจะกระทบกับผู้บริโภคจนเจ๊งเปล่าๆ สิ่งที่ทำได้คือ ใช้การขู่นี้มาเป็นเครื่องมือต่อรองกับประเทศไทย เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการแทน

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า อีกประเด็นที่ต้องระวัง เป็นเรื่องการเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ที่อาจเป็นเงื่อนไขให้สหรัฐมาเล่นกับไทยเร็วขึ้น มีความหมั่นไส้ไทยมากขึ้น เพราะมีความเสี่ยงที่จะถูกหมายหัวว่าด้อยค่าสหรัฐ เนื่องจากภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่สหรัฐ และจีนมีประเด็นการค้า การเข้าร่วมกลุ่มนี้ที่มีจีนอยู่ด้วย อาจทำให้ไทยถูกเหมารวมว่าเลือกข้างได้ จึงมีความเสี่ยงเกิดขึ้น แม้ขณะนี้การรวมตัวกลุ่มสมาชิก ผลประโยชน์ยังไม่ชัดเจนก็ตาม ทำให้ต้องต้องติดตามประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับในการเข้าเป็นสมาชิก BRICS ด้วย

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image