นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวในงานสัมมนา “EEC Strategy : Thailand’s Competitive Transformation” ว่า การเตรียมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสำหรับการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้ตั้งเป้าการจัดหาพื้นที่ 50,000 ไร่ เพื่อรองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยในขณะนี้มีความคืบหน้าแล้วดังนี้ 1.การพัฒนาพื้นที่แล้วและพร้อมรองรับการลงทุนได้ 12,000 ไร่ 2.อยู่ระหว่างการพัฒนาพื้นที่ 15,000 ไร่ 3.การพัฒนาพื้นที่สวนอุตสาหกรรมและเขตอุตสาหกรรม 10,000 ไร่ และ 4.อยู่ระหว่างการจัดหาพื้นที่ใหม่อีก 13,000 ไร่ จากการดำเนินงานของนิคมอุตสาหกรรม การร่วมทุนกับเอกชนและการจัดหาที่ดินใหม่
นายวีรพงศ์กล่าวว่า ปัจจุบันในเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออกมีการใช้น้ำเฉลี่ยวันละ 3 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) และเพื่อรองรับการใช้ทรัพยากรและป้องกันความเสี่ยงการใช้ทรัพยากรในพื้นที่อีอีซีในอนาคต ทาง กนอ.จึงได้เตรียมแผนรองรับการใช้น้ำในพื้นที่อุตสาหกรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าประมาณสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมร่วมกับกรมชลประทาน เพื่อจัดทำแผนการใช้ทรัพยากรน้ำในพื้นที่อีอีซีร่วมกัน นอกจากนี้แล้วในส่วนการเตรียมแผนพลังงานในพื้นที่อีอีซี มองว่าไม่เป็นกังวล เพราะในพื้นที่มีแหล่งก๊าซธรรมชาติอยู่แล้ว จึงคาดว่าจะรองรับการใช้งานในอนาคตได้
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า โครงการอีอีซีจะเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 4 ด้านคือ ไบโอเทคโนโลยี นาโนเทคโนโลยี แอดวานซ์แมททีเรียล และด้านดิจิทัล โดยบีโอไอมีบทบาทเข้าไปส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเทคโนโลยีผ่านการอำนวยความสะดวกในสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวกับการลงทุน ตามแนวทางการดำเนินงานภายใต้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การส่งเสริมการลงทุนฉบับแก้ไข และ พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งเป็นการปรับปรุงจากแนวทาง พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาพื้นที่อีอีซี สำหรับ พ.ร.บ.การส่งเสริมการลงทุนฉบับแก้ไข จะส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง โดยจะมีสิทธิประโยชน์คือการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 13 ปี สำหรับกิจการที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง หรือกิจการวิจัยและพัฒนาตามที่คณะกรรมการกำหนด ส่วน พ.ร.บ.การเพิ่มขีดความสามารถฯ มีเป้าหมายส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยจะมีสิทธิประโยชน์คือการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 15 ปี สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมถึงการสนับสนุนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา การส่งเสริมนวัตกรรมหรือการพัฒนาบุคลากรเฉพาะด้านผ่านกองทุน 10,000 ล้านบาท
