บิ๊กธุรกิจ ชี้ มาตรการอีซี่ อีรี-ซีท มาถูกทาง แต่ไม่พอกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะฟื้น ‘คนละครึ่ง’ อีกครั้ง
เมื่อวันที่ 5 มกราคม นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568 น่าจะยังไม่ดีขึ้นและมีแนวโน้มอาจจะแย่กว่าปี 2567 เนื่องจากยังมีปัจจัยที่มีผลกระทบ โดยเฉพาะนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ที่อาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและรวมถึงเศรษฐกิจไทยด้วย นอกจากนี้คนยังไม่ค่อยมั่นใจต่อเศรษฐกิจ ทำให้ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว แต่ในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ยังไม่น่าห่วง เพราะยังขายได้ แต่ที่น่าห่วงคือสินค้าแฟชั่นและเครื่องสำอาง ที่ปัจจุบันเทรนด์ตลาดเปลี่ยนไปสู่การค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น
“การที่รัฐบาลมีโครงการอีซี่ อีรี-ซีท ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท ถือว่าเป็นโครงการที่ดี แต่สามารถกระตุ้นได้เพียงระยะสั้นเท่านั้น และไม่ได้กระจายรายได้ถึงร้านค้ารายย่อย หากรัฐบาลสามารถนำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้อีกครั้ง มองว่าจะช่วยกระตุ้นได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงโครงการเที่ยวคนละครึ่งที่รัฐบาลมีแผนจะออกมานั้นก็ถือว่าดี และน่าจะต้องมีการกระตุ้นให้คนเที่ยวได้ทั้งไฮซีซั่นและโลว์ซีซั่น”นายบุญชัยกล่าว
นายบุญชัยกล่าวว่า ทั้งนี้สิ่งสำคัญรัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ทำให้คนมีกำลังใจและออกมาใช้เงิน รวมถึงเร่งดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยการออกมาตรการส่งเสริมและให้สิทธิประโยชน์ด้านต่างๆที่เป็นการจูงใจได้มากกว่าประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม เป็นต้น
นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า เห็นด้วยที่กระทรวงการท่องท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมจะเดินหน้าโครงการเที่ยวคนละครึ่งในช่วงเดือนมีนาคม 2568 นี้ โดยรัฐสมทบค่าใช้จ่ายให้ 50% และประชาชนจ่ายเอง 50% แต่อยากให้มีการนำปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต มาปรับแก้เพื่อให้โครงการเดินหน้าไปได้ด้วยดี ให้สามารถเข้าถึงได้ ใช้งานง่าย และขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
“สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจปี 2568 นี้ เบื้องต้นดูแล้วยังไม่มีสัญญาณบอกว่าจะดีหรือไม่ดี สถานการณ์ไม่เหมือนในอดีต ที่ยังพอมีสัญญาณที่พอจะดูรู้ว่าจะโชติช่วงชัชวาลย์หรือไม่ แต่ปีนี้ไม่มีสัญญาณแบบนั้น ขณะที่ปัจจัยกระทบยังคงมีอยู่ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ส่วนโครงการอีซี่ อีรี-ซีทที่ออกมา เป็นเพียงการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ดึงคนระดับปานกลางและระดับสูง นำเงินออกมาใช้จ่าย”นายอธิปกล่าว