“เคจอลา เวนเจอร์” ตั้งเป้า4 ปี ช้อปสตาร์ทอัพไทย 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ กรรมการบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการที่ปรึกษากองทุนร่วมลงทุน “เคจอลา เวนเจอร์” ธุรกิจเงินร่วมลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี วงเงินลงทุนรวม 80-100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองทุนเคจอลา เวนเจอร์สามารถระดมเงินทุนจากนักลงทุนที่เป็นทั้งนักธุรกิจมืออาชีพและนักลงทุนไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ได้แล้วกว่า 1 ใน 3 ของวงเงินทั้งหมด หรือระดมทุนได้แล้วประมาณ 2,880 ล้านบาท ตั้งเป้าภายใน 4 ปีกองทุนนี้จะลงทุนในสตาร์ทอัพไทยทั้งสิ้น 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เน้นลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซ อีโลจิสติกส์ เป็นต้น เพราะเป็นธุรกิจที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงในทุกระดับธุรกิจวงเงินลงทุนตั้งแต่ 1 แสนถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อบริษัท และมีนโยบายถือหุ้น 20-30% เพราะต้องการมีส่วนในการผลักดันบริษัทไทยให้เติบโต ซึ่งได้ลงทุนบริษัทไทย คือ มันนี่ เทเบิ้ลแล้ว วงเงินลงทุนกว่า 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอยู่ในระหว่างเจรจาอีก 3-4 บริษัท

นอกจากนี้ กองทุนนี้ยังเป็นผู้พัฒนาสตาร์ทอัพและดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพเองด้วย ส่วนการออกจากธุรกิจ(Exit) นั้น ขณะนี้มีหลายช่องทางแต่เชื่อว่าใน 4-5 ปีจากนี้จะมีบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาซื้อกิจการต่อแน่นอน ทั้งนี้ กองทุนของเคจอลาได้ลงทุนในสตาร์ทอัพประเทศอื่นไปแล้ว 27 บริษัท ธุรกิจประสบความสำเร็จกว่า 80% ใช้เวลาลงทุนไป 2-3 ปี ให้ผลตอบแทนแล้วกว่า 10 เท่า ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวยังไม่รวมบริษัทดาวรุ่งที่ประสบความสำเร็จ 5 บริษัทที่กองทุนนำมาลงทุนต่อในกองทุนที่สองด้วย ส่วนตัวหวังว่าการเข้าลงทุนในบริษัทของไทยนั้น

นอกจากจะหนุนเรื่องเงินทุนแล้ว ทางกองทุนยังให้ความรู้ และใช้เครือข่ายผู้ร่วมลงทุนช่วยเปิดตลาดไปยังผู้บริโภค 600 ล้านคนทั่วภูมิภาคอาเซียน และหวังว่าจะช่วยตอบสนองนโยบายรัฐบาลไทย เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังพบว่ากฎระเบียบของไทยยังมีบางจุดที่ไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ เช่น ทำความรู้จักตัวตนของลูกค้า (เควายซี) ที่ยังต้องเจอกันแบบตัวต่อตัว ทำให้สิ้นเปลืองเวลาและต้นทุน ขณะที่ต่างประเทศสามารถใช้วีดีโอพิสูจน์ตัวตนได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image