ซีอีโอ มอง DeepSeek ผลดีกับตลาดไทย ตัวเลือก AI ราคาประหยัด แต่หวั่นข้อมูลรั่ว

เปิดมุมมองซีอีโอไทย ต่อ DeepSeek เผยธุรกิจฟื้นตัวเลือกเอไอราคาประหยัดกว่า แต่เตือนระวังข้อมูลรั่ว

เมื่อวันที่ 30 มกราคม นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองต่อการที่จีนออก DeepSeek มาแข่งกับสหรัฐในเรื่องของ AI ว่า การเปิดตัวของ DeepSeek น่าจะเป็นผลดีกับตลาดไทย เนื่องจาก Model AI ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันของบริษัทชั้นนำทาง IT ต้องใช้เงินทุนระดับมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการสร้าง (เทรน) โมเดลขึ้นมา การลงทุนสูงย่อมต้องทำให้ค่าบริการ AI จาก บริษัทเหล่านี้สูงในอนาคต

“ประเทศไทยยังไม่มีบริษัทเทคโนโลยีที่สามารถลงทุนสร้างโมเดลของตัวเอง จึงต้องซื้อ AI มาใช้งานเหมือนเทคโนโลยี IT อื่นๆ การมาของ DeepSeek ในรูปแบบ Open Source ทำให้ค่าใช้จ่ายในการนำ AI มาใช้ลดลงหลายสิบเท่า น่าจะเป็นผลดีกับตลาดบ้านเรา เชื่อว่าจะมีคนไทยนำเอา DeepSeek มาใช้และเทรนด้วยข้อมูลภาษาไทยกันอย่างกว้างขวางต่อไป” นายอธิพรกล่าว

ADVERTISMENT

นายอธิพรกล่าวว่า สำหรับ บมจ.ไอ ทู ปัจจุบัน มีการศึกษาการนำ AI มาสร้าง Solution ให้กับลูกค้า และนำมาช่วยลดต้นทุนของบริษัทในอนาคตต่อไป โดยยังอยู่ในขั้นวิจัยและพัฒนา

ดร.เสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน ) BKGI ให้มุมมองในเรื่องเดียวกันว่า DeepSeek มีบทบาทในการช่วยธุรกิจแล็บทางการแพทย์อย่าง BKGI โดยใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์ผลตรวจสุขภาพ เพิ่มความแม่นยำและลดเวลาวินิจฉัย พัฒนาโมเดลคัดกรองโรคจากข้อมูล DNA ปรับปรุงระบบจัดการข้อมูลแล็บ และให้บริการ Chatbot แนะนำสุขภาพ ช่วยให้การให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ADVERTISMENT

ดร.เสาวลักษณ์กล่าวว่า อีกหนึ่งโอกาสที่สำคัญคือการนำ AI มาใช้ในแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และการให้คำปรึกษาด้านพันธุศาสตร์ ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยจากระยะไกลได้แม่นยำขึ้น ลดเวลาในการขอรับคำปรึกษาและเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น

ดร.เสาวลักษณ์กล่าวด้วยว่า การใช้ AI ในธุรกิจจีโนมิกส์ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลและจริยธรรมทางการแพทย์ BKGI จึงมีความตระหนักถึงมาตรการปกป้องข้อมูลทางพันธุกรรมและพัฒนาแนวทางใช้งาน AI อย่างโปร่งใส ปลอดภัย และรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการ ด้วยการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับศักยภาพด้านจีโนมิกส์ BKGI มีโอกาสที่จะขยายขอบเขตการให้บริการ ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพส่วนบุคคล และสร้างความเปลี่ยนแปลงสำคัญให้กับวงการแพทย์ของไทยในอนาคตอันใกล้นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image