เปิดสิทธิประโยชน์รบ.มอบให้ TikTok จนตัดสินใจทุ่ม 1.26 แสนล้านบาท ปักฐานดิจิทัลในไทย
กรณีคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนนัดแรกของปี 2568 ที่มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุน 3 โครงการสำคัญ มูลค่าลงทุนรวมกว่า 1.7 แสนล้านบาท
โครงการที่เป็นไฮไลต์สำคัญของที่ประชุมคือ โครงการ Data Hosting ของบริษัทในเครือ TikTok Pte. Ltd. ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิดีโอคอนเทนต์ยอดนิยม
โดยจะลงทุนติดตั้ง Server และอุปกรณ์ต่าง ๆ ใน Data Center ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา มูลค่าลงทุนรวม 126,790 ล้านบาท
ถือเป็นข่าวดีมากๆของไทย ที่ TikTok เลือกไทย หลายคนตั้งข้อสังเกตว่ามาจากพิษทรัมป์ 2.0
แต่ความจริงแล้วดีลนี้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว รัฐบาลนำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทีมงานนายกรัฐมนตรี กระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบีโอไอ เดินหน้าเจรจากับ TikTok มาตลอด เพื่อให้เลือกลงทุนประเทศไทย
“มติชนออนไลน์” สอบถาม คุณนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ถึงสิทธิประโยชน์ที่ TikTok ไดัรับจากไทย และประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการลงทุนครั้งสำคัญนี้
เลขาฯนฤตม์ ระบุว่า สิทธิประโยชน์ที่ TikTok
ได้รับเป็นไปตามเกณฑ์สำหรับกิจการ Data Center คือ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ และจะได้รับอนุญาตให้นำเข้าผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาทำงานภายใต้โครงการได้
สำหรับประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับมีดังนี้
- โครงการนี้จะเช่าใช้ Data Center และโครงข่ายระบบดิจิทัลที่ให้บริการอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการสร้างรายได้และความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวในประเทศ
- การลงทุนนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ว่าไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านดิจิทัล ทั้งในแง่โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับการลงทุนขนาดใหญ๋ กฎระเบียบที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจดิจิทัล และยกระดับภาพลักษณ์ให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในพื้นที่ CLMVT
- นอกจากนี้ บริษัทจะร่วมดำเนินการกับองค์กรต่างๆ เพื่อพัฒนาประเทศด้านต่างๆ เช่น การอบรมให้ความรู้และพัฒนาทักษะผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ในการขายของออนไลน์ และขึ้นทะเบียนร้านค้าในแพลตฟอร์ม TikTok เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าและสร้างช่องทางการขายสินค้าใหม่ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok รวมทั้งการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ในเรื่องดิจิทัลและสื่อออนไลน์ ให้กับเยาวชนและบุคลากรไทยด้วย
เลขาฯนฤตม์ ยังกล่าวว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่าง Data Center และ Cloud Service โดยบริษัทชั้นนำจากทั้งสหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และไทย รวม 16 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 240,000 ล้านบาท
ถือเป็นอุตสาหกรรมที่ลงทุนสูงเป็นอันดับหนึ่ง สำหรับในปีนี้ คาดว่าจะมีบริษัทชั้นนำระดับโลกตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในไทยและภูมิภาคอาเซียน
โดยเฉพาะจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ AI รวมทั้งการจัดเก็บและประมวลผล Big Data การลงทุนของทั้งสองโครงการนี้จึงเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็น Digital Hub ของภูมิภาค