พาณิชย์เกาะติดผลกระทบการค้าชายแดนไทย-เมียนมา หลังระงับจ่ายไฟฟ้า-ส่งออกน้ำมัน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกรณีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 2 /2568 โดยที่ประชุมพิจารณาประเด็นการระงับการจ่ายไฟฟ้าและการส่งออกน้ำมัน ในพื้นที่ชายแดนไทย – เมียนมา เพื่อสกัดกั้น การดำเนินการของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ชายแดนฯ และมีมติให้ระงับการจ่ายไฟฟ้า และการส่งออกน้ำมัน ในพื้นที่ตามแนวชายแดน
ทั้งนี้ พื้นที่ชายแดนฯ ที่มีการระงับการจ่ายไฟฟ้าและการส่งออกน้ำมันประกอบด้วย 5 พื้นที่ ได้แก่ 1.บ้านเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตรงข้ามกับเมืองพญาตองซู รัฐมอญ 2. สะพาน มิตรภาพไทย – เมียนมาแห่งที่ 2 อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตรงข้ามกับเมืองเมียวดีรัฐกะเหรี่ยง 3. บ้านห้วยม่วง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตรงข้ามกับเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง 4. บ้านเหมืองแดง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรงข้ามกับเมืองท่าขี้เหล็กรัฐฉาน และ 5. สะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรงข้ามกับเมืองท่าขี้เหล็กรัฐฉาน โดยพื้นที่ดังกล่าวได้ระงับการจ่ายไฟและการส่งออกน้ำมันตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 น.
สำหรับพื้นที่ 5 จุดดังกล่าวอยู่ภายใต้พื้นที่ของ 3 ด่านศุลกากร ได้แก่ ด่านศุลกากรแม่สาย ในปี 2567 มีมูลค่าการส่งออก 17,129 ล้านบาท ด่านศุลกากรแม่สอด ในปี 2567 มีมูลค่าการส่งออก 68,200 ล้านบาท และด่านศุลกากรสังขละบุรี ในปี 2567 มีมูลค่าการส่งออก 6,455 ล้านบาท
“สั่งจากมีมติให้ระงับการจ่ายไฟฟ้า และการส่งออกน้ำมัน ในพื้นที่ตามแนวชายแดน กระทรวงพาณิชย์ โดยพาณิชย์จังหวัดที่มีชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนอย่างใกล้ชิด โดยประเมินผลกระทบเชิงพาณิชย์ต่อการค้าชายแดนไทย-เมียนมา เบื้องต้น คาดการณ์ว่า การระงับการจ่ายไฟฟ้า ในระยะสั้น อาจส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของชาวเมียนมาบริเวณชายแดนและการประกอบการต่างๆ แต่ธุรกิจคาสิโนหรือธุรกิจผิดกฎหมายเชื่อว่าสามารถดำเนินการได้ เพราะได้เตรียมรองรับผลกระทบไว้แล้ว เช่น นำระบบเครื่องปั่นไฟและระบบไฟโซลาเซลล์ มาใช้งาน ซึ่งในระยะแรกคาดว่าจะยังไม่มีผลกระทบรุนแรง เนื่องจากธุรกิจคาสิโน ยังต้องพึ่งพาสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทย อย่างไรก็ตาม การจำหน่ายกระแสไฟฟ้าไม่รวมอยู่ในฐานข้อมูลการค้าชายแดนเนื่องจากการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาคเป็นผู้รวบรวมและบันทึกข้อมูลสถิติการจำหน่ายไฟฟ้า” แหล่งข่าวในกระทรวงพาณิชย์กล่าว
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ(คต.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมฯได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เบื้องต้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจประเภทต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนฝั่งเมียนมา รวมทั้งการตรวจปล่อยสินค้า CIQ จะได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการปรับตัวของฝั่งเมียนมาร์ การระงับการส่งออกน้ำมันอาจส่งผลต่อเนื่องในระยะยาว เนื่องจากเครื่องปั่นไฟจำเป็นต้องใช้น้ำมัน ในการผลิตไฟฟ้าและส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลให้ผู้ประกอบการส่งออกน้ำมัน ไปยังเมียนมาอาจต้องหาช่องทางอื่น ๆ ในการส่งออก รวมทั้งถ้าธุรกิจคาสิโนปิดกิจการอาจส่งผลกระทบ ต่อการส่งออกวัสดุก่อสร้างและสินค้าอุปโภคบริโภคทางชายแดนของไทยอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ในส่วนของสินค้าเชื้อเพลิง คต. มีมาตรการกำกับดูแลเฉพาะการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง โดยกำหนดมาตรการให้การนำเข้าต้องได้รับความเห็นชอบ ซึ่ง คต. มอบอำนาจให้กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน เป็นผู้พิจารณาเห็นชอบให้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนกรณีการส่งออก คต. ไม่ได้มีมาตรการในการควบคุมการส่งออก อย่างไรก็ดี พระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 ของกระทรวงพลังงาน มีอำนาจในการกำกับดูแลการส่งออก
“เพื่อสร้างและขยายโอกาสการค้าชายแดนไทย – เมียนมา คต. มีแผนการจัดมหกรรมการค้าชายแดน ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568” นางอารดากล่าว