สินค้านำเข้าเถื่อนทะลัก แค่ 4 เดือนพุ่ง 25% จุลพันธ์สั่งตั้ง กก.ศึกษานโยบายขึ้นภาษี ทรัมป์ 2.0

‘จุลพันธ์’ แถลงปราบสินค้านำเข้าเถื่อน 4 เดือน โต 25% สั่งคลังตั้ง กก.ศึกษานโยบายขึ้นภาษี ทรัมป์ 2.0

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการแถลงข่าว “กรมศุลกากรแถลงผลการจับกุมสินค้าผิดกฎหมายในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568” โดยเปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้เพิ่มมาตรการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้าผิดกฎหมายที่ส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างจริงจัง กระทรวงการคลังได้ขานรับนโยบายและสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มงวดเพื่อตอบสนองนโยบายอย่างเคร่งครัด

นายจุลพันธ์กล่าวว่า กรมศุลกากรจึงกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าผิดกฎหมายทุกช่องทาง รวมถึงการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2568 กรมศุลกากรสามารถจับกุมสินค้าผิดกฎหมายเติบโต 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หรือมีมูลค่ากว่า 780 ล้านบาท โดยมีสินค้าที่น่าสนใจ ดังนี้

ADVERTISMENT

1.บุหรี่ต่างประเทศ มีสถิติการจับกุมบุหรี่ต่างประเทศ ในปีงบ 2568 (ตุลาคม 2567-มกราคม 2568) จับกุมได้ 667 คดี ปริมาณ 17.39 ล้านมวน มูลค่า 90.32 ล้านบาท 2.บุหรี่ไฟฟ้า มีสถิติการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ในปีงบ 2568 จับกุมได้ 234 คดี มูลค่า 28.95 ล้านบาท 3.ยาเสพติด สำหรับสถิติในการจับกุมยาเสพติด ในปีงบ 2568 จับกุมได้ 85 คดี มูลค่า 637.10 ล้านบาท 4.ช่อดอกกัญชา มีสถิติในการจับกุมกัญชา ในปีงบ 2568 จับกุมได้ 361 คดี มูลค่า 24.75 ล้านบาท

5.ของอุปโภคที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร เช่น โลชั่นบำรุงผิวและทิชชูเปียก จำนวน 300,000 ชิ้น มูลค่า 7 ล้านบาท โดยเป็นสินค้าที่มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ และไม่มีเอกสารหลักฐาน การผ่านพิธีการศุลกากร, กระดาษเช็ดหน้า จำนวน 223,440 ชิ้น มูลค่า 167,203.35 บาท โดยมีประเทศกำเนิด CHINA แต่บรรจุภัณฑ์ของสินค้าดังกล่าว ระบุ “Made in Thailand” จึงเป็นการแสดงกำเนิดเป็นเท็จ

ADVERTISMENT

6.ขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก มีสถิติการจับกุมของที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ในปีงบ 2568 ได้แก่ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 19 คดี น้ำหนัก 256.64 ตัน เศษพลาสติก จำนวน 8 คดี น้ำหนัก 367.20 ตัน 7.เครื่องเล่นเกมส์ ประเภทตู้คีบตุ๊กตา กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ตรวจสอบตู้สินค้าขาเข้า พบของไม่ได้แสดงข้อมูลในใบขนสินค้าเป็นเครื่องเล่นเกมส์ (ตู้คีบตุ๊กตา) โดยนำเข้าในลักษณะแยกชิ้นส่วน ซึ่งสามารถนำมาประกอบเป็นตู้คีบตุ๊กตาครบชุดสมบูรณ์ จำนวน 132 ตู้ มูลค่า 1.6 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังตรวจสอบพบสินค้านำเข้าจากประเทศจีน แสดงข้อมูลในใบขนสินค้าเป็นตู้ แต่เมื่อตรวจสอบ พบเป็นเครื่องเล่นเกมส์ (ตู้คีบตุ๊กตา) จำนวน 48 ตู้ มูลค่า 480,000 บาท

นายจุลพันธ์กล่าวอีกว่า การจับกุมสินค้าผิดกฎหมายดังกล่าวไม่มีการเลือกปฏิบัติว่าสินค้าต้นทางมาจากประเทศใด โดยเฉพาะประเทศที่ได้รับผลกระทบการตั้งกำแพงภาษีจากสหรัฐ แต่ยึดกฎหมายในประเทศเป็นหลัก รวมทั้งข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะกระทรวงการคลังจะตั้งหน่วยงานขึ้นมาศึกษาและติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้คนไทยและสินค้าไทยได้รับผลกระทบ โดยศึกษาจากกรณีประเทศเม็กซิโกและแคนาดที่ได้เข้าไปเจรจาต่อรอง จนได้รับการผ่อนปรนยืดเวลาการขึ้นภาษีไปอีก 1 เดือน

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ส่วนสินค้านำเข้าจากจีน ยังไม่เห็นตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย แต่จะติดดตามอย่างใกล้ชิด โดยพิจารณาจากซัพพลายจากจีน ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโยบายสหรัฐ และความต้องการสินค้าของคนไทย ซึ่งหากมีตัวเลขการนำเข้าสินค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะก็จะต้องหามาตรการเข้ามาควบคุมต่อไป

นายจุลพันธ์กล่าวด้วยว่า สำหรับการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสิบค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท ซึ่งหลังจากที่ได้มีมติเห็นชอบจาก ครม.ไปแล้ว กรมศุลกากรได้จัดเก็บแทนกรมสรรพากรจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากกรมสรรพากรอยู่ในขั้นตอนพัฒนาแพลตฟอร์มให้มีความพร้อม หากแล้วเสร็จจะสามารถจัดเก็บภาษีผ่านแพลตฟอร์มได้โดยตรง ซึ่งปัจจุบันกรมศุลการสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสิบค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้ราวเดือนละ 220 ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image