ส่องสินค้าส่งออกชายแดน 10 อันดับแรก ไทย-เมียนมา ค้าขายอะไรกัน พ่อค้าโชห่วย ชี้พิษหยุดจ่ายไฟ 2 สัปดาห์ชัดเจน

ส่องสินค้าส่งออกชายแดน 10 อันดับแรก ไทย-เมียนมา ค้าขายอะไรกัน พ่อค้าโชห่วย ชี้พิษหยุดจ่ายไฟ 2 สัปดาห์ชัดเจน

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย ให้ความเห็นกรณีสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีมติให้ระงับการจ่ายไฟฟ้า และการส่งออกน้ำมัน ในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ครอบคลุม 5 พื้นที่ ได้แก่ 1.บ้านเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตรงข้ามกับเมืองพญาตองซู รัฐมอญ 2. สะพาน มิตรภาพไทย – เมียนมาแห่งที่ 2 อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตรงข้ามกับเมืองเมียวดีรัฐกะเหรี่ยง 3. บ้านห้วยม่วง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตรงข้ามกับเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง 4. บ้านเหมืองแดง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรงข้ามกับเมืองท่าขี้เหล็กรัฐฉาน และ 5. สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรงข้ามกับเมืองท่าขี้เหล็กรัฐฉาน นั้นว่า ด้านการค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภค ผลกระทบน่าจะเกิดกับบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายมากกว่าร้านค้าทั่วไป เพราะมีการจัดส่งกันโดยตรง ส่วนจะกระทบแค่ไหนและวงกว้างไปมิติใดบ้าง คงต้องติดตามอีก1-2 สัปดาห์จากใช้มติ เพราะมีเรื่องสต๊อกเดิมและเส้นทางค้าขายใหม่กับประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับเมียนมาด้วย

“เราห่วงก็ประชาชนและรายเล็กๆ ในพื้นที่ถูกมาตรการระงับไฟและต้องใช้น้ำมัน จะหาซื้อและแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในอนาคตแค่ไหน รวมถึงคนไทยติดขอบชายแดนด้วย เรื่องนี้คงต้องติดตามใกล้ชิด ไม่แต่การค้าขาย แต่เราต้องดูการตอบโต้ด้วย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ รายงานถึงสถิติการส่งออกสินค้าชายแดนไทย-เมียนมา ปี 2567 ใน 3 จังหวัด และแจกแจงสินค้าส่งออก 10 อันดับแรกที่ไทย-เมียนมา ค้าขายกัน ได้แก่
จังหวัด เชียงราย (ด่านศุลกากรแม่สาย) มีมูลค่าส่งออก 17,129 ล้านบาท ขยายตัว 3.2% โดยสินค้าส่งออก 10 อันดับแรก ประกอบด้วย
1.น้ำมันดีเซล 2,616 ล้านบาท (+19.7%)
2.น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 2,064 ล้านบาท (+14.9%)
3.ปูนซีเมนต์ 876 ล้านบาท (-20.9%)
4.เครื่องดื่มอื่นๆ 715 ล้านบาท (+10.4%)
5.เหล็กและเหล็กกล้าอื่น ๆ 569 ล้านบาท (-39.1%)
6.น้ำแร่น้ำอัดลมที่ปรุงรส 532 ล้านบาท (+3.7%)
7.สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรอื่นๆ 450 ล้านบาท (+28.0%)
8.สิ่งปรุงแต่งที่ใช้แต่งหน้าหรือบำรุงผิว 445 ล้านบาท (+52.4%)
9.น้ำมันปาล์ม 410 ล้านบาท (-5.5%)
10.สบู่ 392 ล้านบาท (+80.4%)

ADVERTISMENT

จังหวัดตาก (ด่านศุลกากรแม่สอด) มีมูลค่าส่งออก 68,200 ล้านบาท ติดลบ 27.4% โดยสินค้าส่งออก 10 อันดับแรก ประกอบด้วย
1.น้ำมันดีเซล 4,245 ล้านบาท (+7.8%)
2.โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน 3,323 ล้านบาท (-11.7%)
3.น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ 2775 ล้านบาท (-4.3%)
4.น้ำมันปาล์ม 2,412 ล้านบาท (-22.2%)
5.เครื่องดื่มอื่นๆ 2,123 ล้านบาท (-21.5%)
6.ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ 1,888 ล้านบาท (-8.7%)
7.น้ำแร่น้ำอัดลมที่ปรุงรส 1,861 ล้านบาท (-30.5%)
8.อาหารปรุงแต่งอื่นๆ 1,852 ล้านบาท (-23.6%)
9.รถยนต์นั่งเครื่องสันดาป 1,615 ล้านบาท (-45.4%)
10.สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรอื่นๆ 1,610 ล้านบาท (-32.1%)

จังหวัดกาญจนบุรี (ด่านศุลกากรสังขละบุรี) มีมูลค่าส่งออก 6,455 ล้านบาท ขยายตัว 400% โดยสินค้าส่งออก 10 อันดับแรก ประกอบด้วย
1.น้ำแร่น้ำอัดลมที่ปรุงรส 711 ล้านบาท (+429.2%)
2.สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรอื่น ๆ 516 ล้านบาท (+344.3%)
3.น้ำมันปาล์ม 501 ล้านบาท (+7,197.0%)
4.เครื่องดื่มอื่น ๆ 473 ล้านบาท (+610.2%)
5.กุ้งก้ามกรามสด แช่เย็น แช่แข็ง 353 ล้านบาท (+148.8%)
6.น้ำมันดีเซล 318 ล้านบาท (+110.0%)
7.กุ้งอื่นๆ สด แช่เย็น แช่แข็ง 286 ล้านบาท (+118.7%)
8.เบียร์ 262 ล้านบาท (+94.9%)
9.ผ้าผืนทำจากฝ้าย 230 ล้านบาท (+6,832,305.3%)
10.ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์อื่นๆ 186 ล้านบาท (+35,544.3%)

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image