ทอท. แถลงผลประกอบการ 3 เดือนงวดแรก งบปี’68 กำไรเพิ่มขึ้น 17.12%- ปี’68 ลงทุน 2 เมกะโปรเจ็กต์

ทอท. แถลงผลประกอบการ 3 เดือนงวดแรก งบปี’68 กำไรเพิ่มขึ้น 17.12%- ปี’68 ลงทุน 2 เมกะโปรเจ็กต์

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึงเดือนธันวาคม 2567 ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. โดยมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 5,344.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 781.27 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.12 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ทอท. มีรายได้รวม 17,906.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.41 ซึ่งรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 1,956.27 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.45 แบ่งเป็น รายได้เกี่ยวกับกิจการการบินมีจำนวน 8,804.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,727.76 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24.41 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารของ ทอท.

โดยเฉพาะจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.05 และ 21.52 ตามลำดับ และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินจำนวน 8,859.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 228.51 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.65 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวม 10,353.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,086.70 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.73 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ นายกีรติกล่าวว่า ปัจจัยที่ทําให้ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นว่า เป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว นโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจของภาครัฐ และวันหยุดยาว (Golden Week) ของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากทั้งตลาดระยะไกล (Long Haul) และตลาดระยะใกล้ (Short Haul)

ADVERTISMENT

อีกทั้ง ทอท.ยังสนับสนุนนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐผ่านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการส่งเสริมเส้นทางการบินใหม่โดยลดค่าธรรมเนียม สําหรับสายการบินที่เปิดเส้นทางใหม่ โครงการลดค่าเช่าสําหรับสายการบินที่ย้ายไปใช้อาคาร SAT-1 และโครงการสนับสนุนการตลาดสําหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่และเชียงราย โดยการให้เงินสนับสนุน 300 บาทต่อผู้โดยสารหนึ่งคน สําหรับเที่ยวบินที่เข้าเงื่อนไข เป็นต้น

นอกจากนี้ นายกีรติเผยว่า ในปี 2568 ทอท.มีแผนการลงทุนทั้งหมด 2 โครงการ ดังนี้ 1.โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสาร (East Expansion) โดยมีการปรับวงเงินจากมูลค่า 9,000 ล้านบาท เป็น 12,000 ล้านบาท เนื่องจากขอบเขตพื้นที่เพิ่มขึ้น และงานระบบที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การปรับวงเงินเป็น 12,000 ล้านบาท ยังอยู่ในกรอบงบที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนด เป็นเพียงการปรับกรอบการใช้เงินเท่านั้น

โดยขณะนี้ตัวรูปแบบโครงการต่างๆ และรูปแบบวงเงินได้ส่งให้ทางคณะกรรมการ ทอท. พิจารณาเรียบร้อยแล้ว และเตรียมนำกลับไปที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรับทราบแผนการใช้วงเงินที่จะดำเนินการ โดยคาดว่าเดือนพฤษภาคม 2568 จะเริ่มการประมูลได้

2.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 วงเงินลงทุน 36,829.499 ล้านบาท ระยะที่ 3 คาดว่าช่วงเดือนธันวาคม จะสามารถเริ่มเปิดประมูลได้

นอกจากนี้ นายกีรติกล่าวว่า ทอท.มีมาตรการติดตั้งโซลาร์เซลล์ทั้ง 6 ท่าอากาศยาน เพื่อทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวันได้ในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งทางท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ได้เริ่มติดตั้งไปบางส่วนแล้วบริเวณอาคารผู้โดยสาร และอาคารโดยรอบ และจะเริ่มทำการจ่ายไฟได้ในกลางปี 2568 นี้ รวมถึงจะมีการเริ่มเจรจาร่วมมือกับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้กับอีก 5 ท่าอากาศยานในเครือ ทอท.ที่เหลืออยู่ เพื่อปรับเปลี่ยนให้มาใช้พลังงานไฟฟ้าที่มาจากแสงอาทิตย์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image