ตลท. ขอให้ ทอท. ชี้แจงข้อเท็จจริง หลังราคาหุ้นวูบ ชนวนอุ้ม คิง เพาเวอร์
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ราคาหุ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงกว่า 13.76% เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เบื้องต้นทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขอให้ทางบริษัทดังกล่าวออกมาชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบข้อมูลอย่างชัดเจนถึงกรณีที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้หุ้น ทอท.ปิดตลาดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลง 13.76% หรือลดลง 7.50 บาท อยู่ที่ 47.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 8,720.08 ล้านบาท เมื่อเทียบจากราคาวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายมากที่สุด ในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ก.พ.)
ด้าน นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่จัดเก็บกับคู่สัญญากลุ่มคิงเพาเวอร์ ในการบริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) จากกรณีผู้รับสัมปทานที่เช่าพื้นที่ของ ทอท. เริ่มขาดสภาพคล่องและจ่ายเงินล่าช้า เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 และปริมาณผู้โดยสารยังไม่กลับมาฟื้นตัวอย่างที่คาดการณ์ไว้
นายกีรติเผยว่า ขณะนี้ ทอท.มียอดที่ยังค้างชำระจ่ายจากทุกคู่สัญญารวมประมาณอยู่ที่กว่า 5,000 ล้านบาท เพราะยังมีการจ่ายเบี้ยปรับอย่างต่อเนื่อง และมีหนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) อยู่ด้วย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นของกลุ่มคิงเพาเวอร์ ประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยได้เริ่มปรับมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 แต่อย่างไรก็ตาม เอกชนมีการเจรจาขอให้ลดค่าปรับลง โดยอาจจะปรับโครงสร้างอัตราดอกเบี้ย จาก 18% ต่อปี เป็น MLR+2 อยู่ที่ประมาณกว่า 9% ต่อปี เพื่อช่วยเหลือและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
ทั้งนี้ นายกีรติเผยว่า ทอท.ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับแก้ไขสัญญาอย่างแน่นอน และไม่กระทบต่อผลประกอบการของ ทอท. เพราะบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ยังคงจ่าย แต่จ่ายช้าหน่อย ทอท.ก็ยังรับรายได้เท่าเดิม และอาจจะมากขึ้นจากการเรียกเก็บค่าปรับเป็นดอกเบี้ยตามสัญญาประมาณ 18% ของยอดเงินที่ผิดนัดชำระ