ธนารักษ์ ยกระดับที่ราชพัสดุ-เหรียญกษาปณ์ หนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไทย
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่ากรมเตรียมนำเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาใช้ยกระดับการจัดการทรัพย์สินของกรม ทั้งที่ราชพัสดุ และเหรียญกษาปณ์ ซึ่งจะช่วยในมิติเศรษฐกิจ และสังคมซึ่งกรมธนารักษ์เตรียมจัดทำแผนแม่บท หรือ มาสเตอร์แพลน เพื่อพัฒนาที่ราชพัสดุ เพื่อนำที่ดินมาใช้ประโยชน์ให้เหมาะสม
โดยในเร็วๆนี้ กรมจะมีการประชุมจัดทำมาสเตอร์แพลน แผนบริหารจัดการทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ทั่วประเทศ เพื่อยกระดับทรัพย์สินของรัฐ จากที่ราชพัสดุ 12.5 ล้านไร่ เช่น เช่นทำพิพิธภัณฑ์ หรือให้เช่าเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะข่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า อาทิ บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ นับว่ามีศักยภาพในการนำมาสร้างโซล่าฟาร์ม เพื่อสร้างรายได้เพิ่มจากพลังงานสะอาด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้พาสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมพิพิธตลาดน้อย พิพิธภัณฑ์ชุมชนแห่งใหม่ของกรมธนารักษ์ หนึ่งในโมเดลของการนำที่ดินมาใช้เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ควบคู่กับการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสังคมให้คงอยู่ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่และชุมชน ชูสถานที่สำคัญ ของดีของเด่นและอาหารอร่อยในพื้นที่ ส่งเสริม ซอฟต์พาวเวอร์ และกระตุ้นการท่องเที่ยว ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต
อย่างยั่งยืน
สำหรับพิพิธตลาดน้อยตั้งอยู่บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.3870 โฉนดที่ดินเลขที่ 763 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 214.50 ตารางวา โดยกรมธนารักษ์ได้พัฒนาและปรับปรุงโรงกลึงขนาดใหญ่ทำชิ้นส่วนประกอบเรือ เครื่องจักรและโรงสีข้าว ภายหลังเลิกกิจการ พื้นที่ถูกทิ้งร้างและไม่ได้ใช้ประโยชน์
ปัจจุบันกรมธนารักษ์มีพิพิธภัณฑ์5 แห่ง ประกอบด้วย พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ พิพิธบางลำพู พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์จังหวัดเชียงใหม่ พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์จังหวัดขอนแก่น และพิพิธตลาดน้อย
นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ จะทำการยกระดับเหรียญกษาปณ์ให้เป็นเหรียญที่ระลึก ซึ่งเหรียญกษาปณ์บางรุ่นเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักสะสมทั้งในและต่างประเทศ ทำให้มีการซื้อขาย แลกเปลี่ยนกันในมูลค่าสูง ซึ่ง สอดคล้องกับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลเช่นกัน
“อย่างไรก็ดี ในปีงบประมาณ 2568 กรมมีเป้า หมายการจัดเก็บรายได้ ตามเอกสารงบประมาณที่กรมมีเป้า 1.06 หมื่นล้านบาท ซึ่งขยายตัวจากปีที่แล้วเล็กน้อย การใช้เทคโนโลยียกระดับทรัพย์สินนั้น จะเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มเรื่องรายได้ และพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เชื่อว่ากรมจัดเก็บรายได้เข้าเป้าหมายแน่นอน”นายเอกนิติ กล่าว