ผู้ส่งออกส่งสัญญาณ อย่าปล่อยราคาข้าวไทยแพงเกินคู่แข่ง เข้าเดือนก.พ.คำสั่งซื้อใหม่นิ่ง
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาข้าวในประเทศและการส่งออกว่า ตลาดซื้อขายข้าวในประเทศจะยังทรงๆ เนื่องจากตลาดส่งออกสำหรับคำสั่งซื้อใหม่ ยังเข้ามาน้อย ตามภาวะการค้าข้าวโลกค่อนข้างนิ่งและราคายังขาลงในช่วงปลายๆ ที่อาจจะลงได้ 10-20 เหรียญสหรัฐต่อตัน หากกำลังซื้อไม่มากเท่าประเทศผู้ส่งออกต้องการระบายข้าว ประกอบกับตลาดรอดูสถานการณ์ราคาข้าวโลก และรอการแข่งขันด้านราคาของประเทศผู้ส่งออกสำคัญๆ ดังนั้น ความผันผวนของตลาดและราคาข้าวจะอยู่ต่ออีก 1-2 เดือน (กุมภาพันธ์-มีนาคม) อย่างไรก็ตาม สมาคมยังคงเป้าหมายส่งออกข้าวทั้งปี 2568 อยู่ที่ 7.5 ล้านตัน ซึ่งในเดือนมกราคมคาดว่าจะมีปริมาณส่งออกประมาณ 7 แสนตัน และปริมาณแผ่วลงในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม
“ปกติเมื่อตลาดมองว่าราคาข้าวยังขาลง หรือรอจนมั่นใจราคาไม่ต่ำแล้ว การซื้อก็จะน้อยกว่าปกติ ต่างจากสถานการณ์ราคาข้าวขาขึ้น จะเกิดการแย่งซื้อ ซึ่งปีนี้ยังไม่เห็นปัจจัยหรือสัญญาณอะไรส่งผลต่อราคาข้าวขึ้นแบบพรวด อย่างเมื่อปี 2565-66 ที่รัฐบาลอินเดียห้ามส่งออกข้าวเจ้า ได้มีผลต่อความต้องการและราคาดีดขึ้นทันที สำหรับราคาในประเทศนั้น ที่เรียกร้องราคาข้าวเปลือกเจ้า 1 หมื่นบาทต่อตัน ส่วนตัวมองว่าแยะไปและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าในวันนี้ หากย้อนไปก่อนอินเดียห้ามส่งออกราคาข้าวเปลือกตอนนั้นอยู่ระดับ 7-8 พันเศษ เมื่ออินเดียห้ามส่งออกความต้องการแย่งซื้อข้าวพุ่ง ราคาขยับตามกลไกตลาดไปเกิน 9 พันถึง 1 หมื่น แต่ตอนนี้อินเดียหันมาส่งออกอีกครั้ง และสต๊อกที่หลายประเทศมีอยู่มาก ผลผลิตในประเทศนำเข้าก็เพิ่มขึ้น จากความต้องการสูงก็เริ่มลดลง ราคาถอยไปอยู่ที่ 7-8 พันบาท ก็ไม่น่าจะผิดจากกลไกตลาด ซึ่งการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายรายละ 1,500 บาท ผมก็ว่าสมเหตุสมผล หากใช้การประกันราคา อิงราคาข้าวเปลือก 1 หมื่นบาท รัฐต้องชดเชย 2-3 พันบาทต่อตัน ก็จะใช้งบจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้รัฐเจอภาระรายจ่ายของงบประมาณค่อนข้างสูง จะดึงเงินจากตรงไหน” นายชูเกียรติกล่าว
นายชูเกียรติกล่าวว่า หากราคาข้าวเปลือกในประเทศถึง 1 หมื่นบาท จะดันให้ราคาข้าวส่งออก (FOB) เกิน 460 เหรียญสหรัฐต่อตัน ยิ่งแข่งขันด้านส่งออกไม่ได้เลย ตอนนี้ราคาข้าวไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่งแล้ว อย่างต้นทุนข้าวเปลือก 8 พันบาท ราคาส่งออกจะอยู่ที่ 435-440 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่เวียดนาม FOB ที่ 390 เหรียญสหรัฐ อินเดีย 400 เหรียญสหรัฐ ปากีสถาน 395 เหรียญสหรัฐ ถือว่าราคาข้าวไทยแพงกว่าประเทศคู่แข่งมากแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้สมาคมและผู้ส่งออกเราได้ส่งสัญญาณให้ภาครัฐได้รับรู้แล้วว่า ราคาข้าวปีนี้มีโอกาสตกลงมากจากปีก่อน เพราะมีหลายปัจจัยกดดัน ตอนนี้ที่จะเร่งทำคือหาตลาดส่งออกใหม่ เร่งเจรจากับประเทศนำเข้าสำคัญ และจับตาการเปิดประมูลนำเข้าข้าวของประเทศต่าง เช่น ฟิลิปปินส์ ปกติประมูลในไตรมาสสอง