“อภิศักดิ์”แจงรายละเอียดกม.ที่ดินสิ่งปลูกสร้างรอผ่านสนช.คาดใช้ได้ปี62หลังค้างมานานกว่า30ปี

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานครบรอบ 36 ปี สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ที่โรงแรมดุสิตธานี ช่วงค่ำของวันที่ 23 มีนาคม 2560 ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังศึกษาการเก็บภาษีที่ดิน ที่รับประโยชน์จากโครงการรัฐด้ว เพราะเมื่อราคาแพงขึ้นควรต้องเสียภาษีให้รัฐ โดยจะเก็บในช่วงที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ ดูราคาทรัพย์สินในช่วงก่อนก่อสร้างกับหลังก่อสร้างว่าแตกต่างกันอย่างไร และเสียภาษีเฉพาะส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น ตรงนี้จะดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ เพราะถ้าเก็บภาษีมากจะมีการลงทุนด้านคมนาคมมาก สามารถพัฒนาโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์มาขายได้มากขึ้น

นายอภิศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) รอบ 2 ไปเมื่อ 21 มีนาคม นั้น เป็นร่างที่ผ่านการพิจารณามาจากกฤษฎีกามาแล้ว หลังจากนี้จะเสนอไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คาดว่ากฎหมายผ่านสนช.ปีนี้ และประกาศกฎหมายในปี 2561 หลังจากนั้นจะให้เวลาท้องถิ่นเตรียมตัว 1 ปี คาดว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้ 2562

“กฤษฎีกานำกฎหมายดินและสิ่งปลูกสร้างไปพิจารณา 8 เดือน มีการปรับการทำงานของกฎหมาย หรือการคิดอัตราภาษีง่ายขึ้น พยายามลดอัตราภาษีให้น้อยที่สุด แบ่งประเภทที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 4 ประเภทคือ 1. ที่ดินเกษตร มีเพดานจัดเก็บ 0.2% 2 .ที่อยู่อาศัยมีเพดานจัดเก็บ 0.5% 3.อื่นๆ (เช่น พาณิชยกรรม) เพดานจัดเก็บ 2% 4. ที่ดินเปล่าเพดานเริ่มต้น 2% ถ้าไม่ใช้ประโยชน์จะถูกปรับภาษีทุก 3 ปีเพิ่มปีละ 0.5% เพดานสูงสุดที่ 5%”นายอภิศกดิ์กล่าว

นายอภิศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับอัตราการจัดเก็บจริงนั้นหากเป็นที่ดินเกษตร มูลค่าไม่ถึง 50 ล้านแรกได้รับยกเว้น เกินกว่าเก็บนั้นคิดอัตรา 0.05% น้อยมาก ส่วนบ้านอยู่อาศัยบ้านหลังหลักอยู่อาศัยรับการยกเว้น 50 ล้านบาท เกินกว่า 50 ล้านบาทคิดอัตราภาษี 0.05% หรือทุก 1ล้านบาท เสีย 500 บาท ส่วนบ้านหลังที่ 2 เป็นต้นไป หากมีราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท คิดอัตรา 0.03% เกินกว่า 50 ล้านบาท คิด 0.05% ส่วนประเภทอื่นๆ เช่นอาคารพาณิชย์ โรงงาน ต่ำกว่า 20 ล้านบาท คิดอัตรา 0.3% ปรับขึ้นเป็นขันบันไดมูลค่า หากประมาณ 100 ล้านบาทคิด 0.9% ประมาณ 3,000 ล้านบาทคิด 1.5%

Advertisement

นายอภิศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับที่ดินว่างเปล่า เริ่มต้นคิดภาษี 2% ถ้าไม่ใช้ประโยชน์จะถูกปรับภาษีทุก 3 ปีเพิ่มปีละ 0.5% เพดานสูงสุดที่ 5% นั้นหากเต็มเพดานใช้เวลานานเป็นสิบปี เนื่องจากต้องการให้ผู้ที่ถือครองที่ดินปรับตัว และนำที่ดินมาใช้ประโยชน์ หากปรับเร็วเกินไปการใช้ประโยชน์ทำง่าย ๆ เช่น ปลูกกล้วย แต่ถ้าให้เวลาอาจนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ที่ดีกว่า นอกจากนี้กฎหมายยังได้มีการลดหย่อนภาษีให้กับสิ่งปลูกสร้างหลายประเภท เช่น โรงเรียนเอกชนเปิดช่องให้ลดหย่อนได้ถึง 90% ที่ดินสำหรับโครงการบ้านจัดสรรที่ซื้อรอการพัฒนาให้เวลา 3 ปี

“ในเรื่องภาษีที่ดินคิดมานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่ไม่เคยสำเร็จ หวังไว้ว่ากฎหมายผ่านครม.และมีผลบังคับใช้ตามเวลาที่วางไว้ เพราะกฎหมายดังกล่าว เป็นพื้นฐานสำหรับภาษีของท้องถิ่น เชื่อว่าทำให้มีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 60,000 ล้านบาท จากขณะนี้เก็บได้เพียง 20,000 ล้านบาท หลังกฎหมายมีผลจะมีกฎหมายลูกอีก 10 กว่าฉบับต้องดำเนินการต่อ”นายอภิศักดิ์ กล่าว
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า อัตราที่บังคับใช้จะถูกกำหนดแน่ชัด และกระทรวงการคลังกำหนดการคำนวณแบบตารางเมตรให้กับท้องถิ่น เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้วิจารณญาณ เพราะในอดีตที่ผ่านมาการจัดเก็บภาษีโรงเรือนยังมีการรั่วไหล

นายอภิศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์หลายมาตรการจนทำให้แข็งแรงขึ้น อยากขอความร่วมมือเอกชนมาช่วยพัฒนาโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ และโครงกาบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมเรื่องจิตสาธารณะ พี่ช่วยน้อง ส่งเสริมให้บริษัทที่เข้มแข็งเข้ามาช่วยสังคม ภาครัฐมีมาตรการภาษีให้เอกชนที่เข้ามาดำเนินโครงการด้วย

Advertisement

“รัฐมีโครงการด้านคมนาคม ทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วน มอเตอร์เวย์ หลายสาย รวมถึงโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) โครงการเหล่านี้ ทำให้ความต้องการบ้านจัดสรร อสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น ถือเป็นเรื่องเป็นประโยชน์กับภาคอสังหาริมทรัพย์”นายอภิศักดิ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image