ท่องเที่ยว ฟื้นแรง ยุคทองธุรกิจโรงแรมไทย นักลงทุนสนใจซื้อคึก คาดปี68 ปิดดีล 1.3 หมื่นล้าน

ท่องเที่ยว ฟื้นแรง ยุคทองธุรกิจโรงแรมไทย นักลงทุนสนใจซื้อคึก คาดปี68 ปิดดีล 1.3 หมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นายรัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริการที่ปรึกษาและบริหารสินทรัพย์ หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรม เจแอลแอล ประจำประเทศไทย กล่าวว่า หลังการท่องเที่ยวไทยกลับมาฟื้นตัว โดยปี 2567 มีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่าแตะ 35 ล้านคนและเพิ่มเป็น 40 ล้านคนในปี 2568 นี้ รวมถึงตลาดไมซ์ที่เติบโต และมีการจัดงานแต่งเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อธุรกิจโรงแรมมีความคึกคักขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะโรงแรมลักชัวรี่ในกรุงเทพฯและภูเก็ต ที่ค่าห้องและอัตราเข้าพักปรับตัวสูงขึ้นกว่าโควิดแล้ว

นายรัฐวัฒน์ กล่าวว่า โดยกรุงเทพฯค่าห้องเพิ่มขึ้น 49% ส่วนภูเก็ตเพิ่มขึ้น 118% ด้านอัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 80% และยังมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นในอนาคต ทำให้นักลงทุนสนใจซื้อโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวและหัวเมืองหลักโดยเฉพาะกรุงเทพฯและภูเก็ตที่ได้รับความสนใจมาก ซึ่งปี 2567 ที่ผ่านมาเจแอลแลปิดดีลการซื้อขายโรงแรมสูงมากถึง 15 แห่ง มูลค่ากว่า 22,000 ล้านบาท และในปี 2568 นี้คาดว่าจะมีการซื้อขายโรงแรมอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท โดยสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีของประเทศ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท สะท้อนถึงความน่าสนใจของไทยในฐานะจุดหมายหลักด้านการลงทุนและแนวโน้มเชิงบวกของนักลงทุนต่อตลาดโรงแรมที่มีศักยภาพของประเทศ

“หลัง 2 ปีที่ผ่านมา ค่าห้องมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ดังนั้นในปี 2568-2570 คิดว่าคงไม่เห็นการเติบโตของค่าห้องปรับตัวสูงขึ้น เพราะถือว่าราคาในปัจจุบันนั้นแพงมากขึ้นไปแล้ว เติบโตประมาณ 2-3% แต่ละตลาด แต่ภูเก็ตน่าจะยังเติบโตขึ้นอีก ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากซีรี่ส์ ที่ทำให้โรงแรมไทยโดยเฉพาเมืองท่องเที่ยบเติบโต อย่างสมุยที่ The White Lotus Season 3 ทำให้ราคาห้องพักปรับเพิ่มขึ้น 30-40% “นายรัฐวัฒน์กล่าว

ADVERTISMENT

นายรัฐวัฒน์กล่าวว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญคือ แรงงานที่ยังไม่กลับเข้ามาในระบบเต็ม 100% ปัจจุบันอยู่ที่ 70-80% จึงทำให้การแข่งขันดึงตัวแรงงานในตลาดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image