ยอดขาย เครื่องใช้ไฟฟ้า-มือถือ พุ่งรับ อีซี่ อี-รีซีท แอลจี-เพาเวอร์มอลล์ โกยเพิ่ม 10% อ้อนรัฐจัดต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นายอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลตอบรับจากโครงการ อีซี่ อี-รีซีท 2.0 ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ 2568 ถือว่ามีผลต่อกำลังซื้อค่อนข้างชัด ทำให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของแอลจีเพิ่มขึ้นร่วม10% มากสุดเป็นกลุ่มเครื่องซักผ้าและทีวี เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ส่วนเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น เพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 1-2% เนื่องจากในปี 2568 ประเทศเข้าสู่หน้าร้อนล่าช้า จึงทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นแอลจีจะมีการจัดทำโปรโมชั่นสำหรับกลุ่มสินค้าหน้าร้อน คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป
“หลังรัฐมีโครงการอีซี่ อี-รีซีท ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยคึกคักขึ้น โดยเฉพาะช่วงวันแรกและช่วงท้ายๆ ที่ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายไตรมาสแรกของปี 2568 เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ อย่างก็ดีปลายปีนี้ อยากให้รัฐบาลมีโครงการอีซี่ อี-รีซีท อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อให้เกิดความต่อเนื่องไปถึงปี 2569”นายอำนาจกล่าว
นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้า เพาเวอร์ มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เพาเวอร์มอลล์ได้รับการตอบรับจากลูกค้าผ่านโครงการอีซี่ อี-รีซีท 2.0 ค่อนข้างดี มียอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ซึ่งอาจจะเป็นเพราะ 1.จำนวนเงินคืนภาษีสำหรับซื้อสินค้าทั่วไปได้เพียง 30,000 บาท น้อยลงจากปีก่อนที่ได้ 50,000 บาท 2.ระยะเวลาน้อยลงเหลือ 44 วัน หายไป 2 วัน 3.หมดจากเครื่องฟอกอากาศที่ขายดีช่วงฝุ่นPM2.5 ทำให้ยอดขายเริ่มช้าลง 4.ครั้วนี้ให้ซื้อผ่านออนไลน์ได้ ส่งผลกระทบต่อการขายออฟไลน์
“สินค้าขายดีปีนี้ยังเป็นเครื่องฟอกอากาศ มือถือ สินค้าหน้าร้อน ทีวีไซซ์ใหญ่ อย่างไรก็ดี ถือว่าเป็นมาตรการที่ดี และอยากให้มีอย่างต่อเนื่องในปี 2569 รวมถึงให้ภาครัฐพิจารณาจำนวนคืนภาษีมากขึ้น อาจจะมากกว่า 30,000 บาทหรือ 50,000 บาทก็ได้ ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคม-มิถุนายนนี้ เราจะทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายสินค้าหน้าร้อนต่อ เช่น เครื่องปรับอากาศ ที่สต๊อกสินค้าเพิ่ม คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 20% “นายรัชตะกล่าว
