รายงานข่าวจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แจ้งว่า สืบเนื่องจากกรณีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและพื้นที่อื่น ๆ ว่ามีการขายสลากเกินราคาที่รัฐบาลกำหนด โดยในชุด 5 ใบ ขายราคา 500 บาท โดยผู้ขายอ้างว่ารับมาแพง และขอให้นายกรัฐมนตรีเร่งตรวจสอบนั้น
พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ได้ประสานไปยังจังหวัดต่าง ๆ ที่ได้รับแจ้งร้องเรียนเรื่องการจำหน่ายสลากเกินราคา นอกจากนี้ ได้ประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรแต่ละภาคด้วย เพื่อให้กวดขันเรื่องดังกล่าว ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากทุกจังหวัดและจับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาได้แล้วหลายราย สำหรับที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้มีการร้องเรียนเรื่องการจำหน่ายสลากเกินราคาในบางพื้นที่นั้น สำนักงานได้มีหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีและผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ขอความร่วมมือให้ติดตามตรวจสอบการจำหน่ายสลากของตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ให้จำหน่ายสลากตามราคาที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดแล้ว
พล.ต.ฉลองรัฐ กล่าวว่า ปัจจุบัน คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลกำหนดเพดานการพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลออกจำหน่ายไว้ไม่เกิน 71 ล้านฉบับหรือ 710,000 เล่มคู่ต่องวด และจัดสรรให้ตัวแทนจำหน่ายประเภทมูลนิธิ สมาคม องค์กร ผู้พิการ จำนวน 904 ราย สลาก 121,727 เล่มคู่ ตัวแทนจำหน่ายรายย่อยรับสลากไม่เกิน 5 เล่มคู่ จำนวน 37,938 ราย รวมเป็นสลาก 168,368 เล่มคู่ และจำหน่ายผ่านระบบจองล่วงหน้าฯ จำนวน 419,905 เล่มคู่ สำหรับการจำหน่ายสลากงวดล่าสุดวันที่ 1 เมษายน 2560 สามารถจำหน่ายสลากได้หมดตามเพดานที่กำหนดไว้โดยมีผู้จองสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านระบบได้จำนวน 51,371 ราย ใช้เวลาทำรายการผ่าน ATM และ Net bank ประมาณ 31 นาที จอง 5 เล่มคู่ 38,742 ราย จอง 10 เล่มคู่ 12,629 ราย ส่วนการจำหน่ายแบบเดิมตัวแทนจำหน่ายทั้งสองประเภทรับสลากไปจำหน่ายครบถ้วน
พล.ต.ฉลองรัฐ กล่าวว่า ด้วยโครงสร้างการจัดสรรสลากในปัจจุบันสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะเป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่ที่สุด ผ่านโครงการซื้อ-จองล่วงหน้า รองลงไปคือมูลนิธิ สมาคมองค์กรผู้พิการ จึงไม่มีผู้ใดมีอิทธิพลเบื้องหลังการค้าสลากได้ ส่วนปัญหาการค้าช่วงเพื่อนำสลากไปรวมชุดจำหน่ายในราคาเกินกว่ากฎหมายกำหนดนั้น สำนักงานได้ดำเนินการตามมาตรการบังคับโดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองของจังหวัดต่างๆ ได้ดำเนินการจับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาอย่างเข้มงวด โดยจะทำการตรวจสอบตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ที่ซื้อ-จองล่วงหน้า โดยต้องไม่นำสลากของตนไปรวมชุดกับผู้อื่น หรือนำสลากของผู้อื่นมาขายร่วม หรือนำสลากของตนไปขายให้แก่ผู้อื่นเพื่อนำไปรวมชุด หรือแลกเปลี่ยนสลากกับผู้อื่น หากมีการตรวจสอบพบการกระทำดังกล่าวถือว่าผู้ขายผิดสัญญาและกระทำผิดเงื่อนไข จะถูกยกเลิกสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่าย หรือยกเลิกการลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาลทันที
“ปัจจุบันมีการจับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ และยกเลิกการเป็นตัวแทนจำหน่ายไปแล้ว รวมทั้งหมด 1,855 ราย ยกเลิกการลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิในการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 190 ราย ทั้งนี้สำนักงานไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีมีการนำสลากไปรวมชุดและจำหน่ายในราคาเกินกว่าที่กำหนด ทั้งนี้ ได้มีมาตรการป้องกันการนำสลากไปรวมชุด ด้วยการปรับวันจ่ายสลาก ตามโครงการซื้อจองล่วงหน้าฯ โดยจะจ่ายสลากที่ไปรษณีย์ปลายทางในวันที่ 5 และ 20 ของเดือน เพื่อให้รับสลากแล้วมีเวลาเพียงพอจำหน่ายด้วยตนเอง และลดโอกาสในการนำสลากจองไปจำหน่ายต่อให้ผู้อื่นนำไปรวมชุด จากมาตรการนี้ ทำให้คัดกรองผู้ที่ไม่จำหน่ายสลากด้วยตนเองออกไปได้ และผู้จำหน่ายสลากจริงทำรายการสลากจองล่วงหน้าได้มากขึ้นด้วย” พล.ต.ฉลองรัฐกล่าว
