วงการอสังหาฯ ยัน ยากปิดดีลขายตึก สาทร ยูนีคทาวเวอร์ ภายใน 5 วัน ชี้ปัญหาเยอะ

วงการอสังหาฯ ยัน ยากปิดดีลขายตึก สาทร ยูนีคทาวเวอร์ ภายใน 5 วัน ชี้ปัญหาเยอะ 

เมื่อวันที่ 2 เมษายน นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์นพร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด อุปนายกสมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย และอุปนายกสมาคมการขายและการตลาดอสังหาฯ (RESAM)เปิดเผย “มติชนออนไลน์” กล่าวถึงกรณีกระแสข่าว สามารถปิดการขายตึกสาทร ยูนีค ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นตึกร้างย่านสาธร มูลค่า 4,000 ล้านบาท ได้แล้วนั้น ว่า เชื่อว่าไม่เป็นความจริงที่จะปิดการขายกันภายใน 5 วัน หลังแผ่นดินไหว เพราะอาคารดังกล่าวทิ้งร้างมานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง เนื่องจากมีปัญหาหลายประการ เคยประกาศขายไปเมื่อปี 2559 มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งเจ้าของเดิม คือนายรังสรรค์ ต่อสุวรรณ เป็นผู้ดำเนินการแต่ก็ยังขายไม่ได้

โดยปัญหาของโครงการดังกล่าว นั้นมีปัญหาเรื่องกฎหมาย รวมถึงมีปัญหากับคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง และมีปัญหาเรื่องเจ้าหนี้ เนื่องจากมีหลายเจ้าเจ้าทั้งหนี้เงินกู้ และเจ้าหนี้ร่วม เนื่องจากโครงการถูกสร้างให้เป็นคอนโดนมิเนียมกว่า 600 ยูนิต ก่อสร้างไปแล้วประมาณ 90% ดังนั้นการที่จะนำตึกดังกล่าวไปขายต้องเจรจากับเจ้าหนี้เดิมให้ได้ก่อน

 

ADVERTISMENT

“จริงๆ แล้วโครงการดังกล่าวในปี 2559 มีนักลงทุนหลายรายสนใจที่จะซื้อ แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ และปล่อยให้เรื่องเงียบและคาราคาซังจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นจึงเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะปิดดีลขายภายใน 5 วัน ในราคา 4,000 ล้านบา เพราะเชื่อว่านักลงทุนชาวไทยต่างรู้ปัญหาของโครงการดังกล่าว หรือแม้แต่นักลงทุนต่างชาติก็ต้องรู้ปัญหา เพราะหากซื้อไปแล้วจะต้องไปเคลียร์ทั้งเจ้าหนี้เงินกู้ เจ้าหนี้ร่วม เงินลงทุน และข้อกฎหมายอีก แม้ว่าในช่วงหลังวิกฤติต้มยำกุ้ง ทางกรมโยธาได้มีการออกประกาศกระทรวงเพื่อให้สามารถนำตึกร้างในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งมาพัฒนาใหม่ แต่ตึกดังกล่าวก็ยังไม่ได้รับการก่อสร้างฟื้นฟูมาจนถึงปัจจุบัน”

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ตึกสาทรยูนีค ทาวเวอร์ ได้มีการวางแผนให้เป็นคอนโดมิเนียมระดับหรูสูง 47 ชั้น รวม 600 ยูนิต ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดังและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้ออกแบบอาคารสเตท ทาวเวอร์ ที่ถือเป็นอาคารน้องของสาธร ยูนีค โครงการก่อสร้างนั้นเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2533 มีเจ้าของโครงการคือบริษัท สาธร ยูนีค จำกัด และได้รับการสนับสนุนเงินทุนส่วนมากจากบริษัทหลักทรัพย์ไทยแมกซ์ การก่อสร้างได้เริ่มต้นขึ้นปีเดียวกัน โดยมีบริษัทสี่พระยา จำกัด เป็นผู้รับเหมาการก่อสร้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาพบว่าโพสต์ของนายหน้ารายดังกล่าวมีการลบโพสต์ทิ้งไปแล้ว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image