เปิดตลาดภาคเช้า หุ้นไทยดิ่งกว่า 12 จุด หลัง ทรัมป์ป่วนโลก

เปิดตลาดภาคเช้า หุ้นไทยดิ่งกว่า 12 จุด หลังทรัมป์ป่วนโลก

เมื่อวันที่ 3 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ดัชนีหลักทรัพย์วันนี้ ทันทีที่เปิดการซื้อขาย หุ้นเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,175.45 จุด เคลื่อนไหวในแดนลบที่ระดับ 1,159.84 จุด ปรับลดลง 12.85 จุด หรือลบ 1.10% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,164.29 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,156.39 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 11,907.05 ล้านบาท

นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีหุ้นไทยปรับลง ตามแรงกดดันจากภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ สูงกว่าคาด หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ในกรอบแคบๆ (ใกล้เคียงที่คาด) ดัชนีฯ ปิดบวก 0.40% ตามแรงซื้อกลับในหุ้นแนว defensive และหุ้นที่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในระดับที่สูง ประเด็นใหญ่ของวันนี้ คือภาษีตอบโต้ (reciprocal tariffs) จากสหรัฐ โดยหลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดเมื่อคืน Donald Trump เปิดเผยรายชื่อ 60 ประเทศที่ต้องเสียภาษีศุลกากรเพิ่ม โดยประเทศในเอเชียและอาเซียนส่วนใหญ่ถูกเก็บภาษีมากกว่าที่ consensus คาดไว้ เช่น จีนถูกเก็บภาษีรวม 54% และไทยถูกเก็บภาษีศุลกากร 36% ซึ่งสูงกว่าที่ consensus คาดที่ 10-15% อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่จะถูกเก็บภาษี และเรามองว่าไทยจะมีการเจรจากับสหรัฐฯ และอัตราภาษีในอนาคตอาจจะต่ำกว่าที่ประกาศในวันนี้

ดัชนีจึงปรับลดลงตามแรงกดดันจากภาษีจากสหรัฐฯ… และผลกระทบเชิงลบหลักๆ น่าจะเกิดกับ i) หุ้นส่งออก เช่น อิเล็กทรอนิกส์ (DELTA*, HANA*, KCE*), อาหารและเครื่องดื่ม (ITC*, TU*, SAPPE*), ii) หุ้นวัฎจักรเศรษฐกิจโลก (เช่น PTTEP*, SCGP*) เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงทางลงและอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันดิบ และ iii) จิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้นนิคมฯ (AMATA*, WHA*) เนื่องจากความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นมาก และบางประเทศในอาเซียนโดนภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ในอัตราที่ต่ำกว่าประเทศไทย

ADVERTISMENT

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image