พิษภาษีมะกัน ฉุดหุ้นไทยทิ้งดิ่งกว่า 24 จุด ตามราคาน้ำมัน-ทองคำ นักลงทุนจับตาแผนรับมือรบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัปม์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ที่โดนด้วย 37% นั้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดสหรัฐอเมริกาตกลงอย่างหนักนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันนี้ว่า ทันที่เปิดการซื้อขาย หุ้นเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,161.81 จุด เคลื่อนไหวในแดนลบที่ระดับ 1,137.90 จุด ปรับลดลง 23.91 จุด หรือลบ 2.06% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,156.02 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,136.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 13,146.24 ล้านบาท
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีหุ้นไทยปรับลงต่ออย่างร้อนแรง โดยได้รับความเสี่ยงจากต่างประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับลงตามภาวะตลาดหุ้นโลกที่ร่วงแรง (ตามคาด) ดัชนีฯ ปิดลบ 0.93% เนื่องจากอัตราภาษี 37% ที่สหรัฐประกาศเก็บต่อสินค้าไทยนั้น กดดันหุ้นที่เชื่อมโยง อาทิ อิเลกโทรนิกส์ และนิคมอุตสาหกรรม ขณะที่แรงซื้อหุ้นเชิงรับ (defensive) และหุ้นที่มีเงินปันผลระหว่างกาลน่าสนใจ ยังช่วยค้ำดัชนีฯ อยู่บ้าง แต่จิตวิทยาหุ้นสหรัฐเป็นลบมาก โดย S&P500 ร่วง 4.84% ตอบสนองต่อการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทั่วโลก สร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผนวกกับตัวเลขสำคัญอย่าง ISM ภาคบริการ เดือนมีนาคม อยู่ที่ 50.8 ต่ำกว่าที่ consensus คาดที่ 53.0
นายรักพงศ์ กล่าวว่า หุ้นพลังงานใน SET น่าจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ ที่ร่วงเกือบ 6.0% หลังจากกลุ่มโอเปคพลัสทำเซอร์ไพรส์เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 4.11 แสนบาร์เรลต่อวัน ในเดือนพฤษภาคมนี้ ฝั่งในประเทศไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ แผนการของรัฐบาลที่เตรียมเจรจากับสหรัฐเพื่อขอลดอัตราภาษีตอบโต้ 37% ซึ่งสหรัฐกำหนดเริ่มเก็บในวันที่ 9 เมษายนนี้ เบื้องต้น รัฐบาลมีแผนการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น ลดข้อจำกัดการซื้อขายสินค้าบางประเภท เพื่อลดระดับการเกิดดุลการค้ากับสหรัฐลง เป็นที่น่าสังเกตว่า ตัวเลขการคำนวณภาษีที่สหรัฐประกาศนั้น คำนวณจากดุลการค้าหารด้วยมูลค่าสินค้านำเข้าที่ไทยสั่งซื้อจากสหรัฐหรือไม่
