คมนาคม กำหนด 7 เส้นทางเสี่ยง ห้ามรถโดยสาร 2 ชั้นใช้ โทษปรับ 50,000 บาท

คมนาคม กำหนด 7 เส้นทางจุดเสี่ยง ห้ามรถโดยสาร 2 ชั้น เข้าใช้เส้นทาง-โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท

ที่อาคารศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการขนส่งทางถนน กรมการขนส่งทางบก นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนในเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 “สงกรานต์สุขใจ เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม”

นายสุรพงษ์เปิดเผยว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ให้มีความปลอดภัยและประทับใจในการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะแบบไร้รอยต่อ โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินการอย่างเข้มข้นในทุกมิติ

โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 มิติ สำคัญ ประกอบด้วย 1.มิติด้านการอำนวยความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับประชาชน เป้าหมายคือประชาชนต้องได้เดินทางทุกคน ไม่มีใครตกค้าง ซึ่งได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดหารถโดยสาร และขบวนรถไฟเสริมให้เพียงพอ รวมถึงดูแลการเดินทางให้เกิดการเชื่อมต่อระบบโดยสารสาธารณะ ทั้งรถไฟฟ้า รถประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. แบบไร้รอยต่ออย่างมีประสิทธิภาพ

โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำแต่ละสถานีเพื่อให้บริการข้อมูล ข่าวสารการเดินทางและรับเรื่องร้องเรียน พร้อมทั้งลดภาระค่าโดยสาร 10% ทุกเส้นทางทั่วประเทศ ให้แก่ประชาชนที่เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ในช่วงเวลาตามมาตรการไปก่อน-กลับทีหลัง ของกระทรวงคมนาคม

ADVERTISMENT

2.มิติด้านความปลอดภัย ดำเนินมาตรการคุมเข้มตรวจความพร้อมของยานพาหนะที่จะนำมาให้บริการประชาชน ตรวจสอบสภาพรถโดยสารตั้งแต่ต้นทาง ระหว่างทาง (จุด Check Point) และปลายทาง รวมถึง ตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถในระบบขนส่งสาธารณะ แอลกอฮอล์ต้องเป็น “ศูนย์” ต้องไม่มีการเจ็บป่วย มีไข้ อ่อนล้า และควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ผ่านระบบ จีพีเอส เช่น การใช้ความเร็ว ชั่วโมงการทำงาน รถโดยสารไม่ประจำทาง ที่วิ่งตั้งแต่ 400 กม.ขึ้นไป ต้องมีคนขับรถ 2 คนขึ้นไป

นอกจากนี้ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ทางกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก ได้มีการออกกฎระเบียบเพิ่มเพื่อเข้มงวดด้านความปลอดภัยของการใช้รถโดยสารไม่ประจำทาง และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุสลดเหมือนที่เคยเกิดขึ้น ดังนั้น จึงได้มีกำหนดเส้นทางจุดเสี่ยง (Zoning) ห้ามรถโดยสารไม่ประจำทาง 2 ชั้น เข้าใช้เส้นทาง โดยเบื้องต้นได้บูรณาการร่วมกับกรมทางหลวง เพื่อกำหนดจุดที่มีความเสี่ยงสูง พิจารณาจากถนนทางหลวงที่มีความลาดชันตั้งแต่ 8% ขึ้นไป เส้นทางมีความยาวตั้งแต่ 5 กิโลเมตร มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุ

ADVERTISMENT

ซึ่งเบื้องต้นจะกำหนด 7 จุดเสี่ยง คือ จังหวัดปราจีนบุรี ทางหลวงหมายเลข 304 สี่แยกกบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว จังหวัดพัทลุง ทางหลวงหมายเลข 4 เขาพับผ้า-พัทลุง จังหวัดแพร่ ทางหลวงหมายเลข 103 แม่ยางฮ่อ แม่ตีบ จังหวัดเชียงใหม่ ทางหลวงหมายเลข 118 เชียงใหม่-ดอยนางแก้ว จังหวัดเลย ทางหลวงหมายเลข 2013 บ่อโพธิ์-โคกงาม จังหวัดเพชรบูรณ์ ทางหลวงหมายเลข 2331 โจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดน่าน ทางหลวงหมายเลข 1256 ปัว-อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

โดยกรมการขนส่งทางบกจะตรวจสอบผ่านระบบจีพีเอส เมื่อพบรถโดยสารไม่ประจำทาง ฝ่าฝืนเข้าเส้นทางดังกล่าว จะดำเนินการออกหนังสือเรียกตัว แจ้งการกระทำผิด กับผู้ประกอบการและพนักงานขับรถ ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท

ทั้งนี้ นายสุรพงษ์กล่าวว่า การออกกฎระเบียบเพิ่มครั้งนี้ ตนเชื่อว่าจะไม่กระทบกับผู้ประกอบการรถโดยสารไม่ประจำทาง และทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการไปหารือกับทางผู้ประกอบการรถโดยสารไม่ประจำทาง เพื่อรับทราบถึงกฎตรงนี้แล้วโดยเบื้องต้น ทางผู้ประกอบการ ก็ตอบรับให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ด้าน นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมคาดการณ์ปริมาณ การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 (วันที่ 11-17 เมษายน 2568 รวม 7 วัน) จะมีปริมาณผู้โดยสาร 2.52 ล้านคน-เที่ยว แบ่งเป็นเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ (บขส.) จำนวน 993,188 คน การเดินทางทางอากาศ จำนวน 770,198 คน เดินทางโดยระบบราง รถไฟระหว่างเมือง จำนวน 757,292 คน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image