นายกคุยบิ๊กบอสแกร็บ เชื่อมั่นศักยภาพไทย เล็งขยายลงทุนเพิ่ม หนุนจ้างงานในไทย
เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแอนโธนี ตัน ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท แกร็บ โฮลดิ้งส์ จำกัด พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย โดยนายกรัฐมนตรี และ ประธานบริษัทแกร็บฯยินดีที่ได้พบหารือร่วมกันอีกครั้ง ภายหลังได้หารือร่วมกันกับบริษัทด้านการท่องเที่ยว เมื่อเดือนตุลาคม 2567 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย และพบกันในช่วงการประชุม World Economic Forum (WEF) เดือนมกราคมที่ผ่านมา
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ชื่นชมบทบาทของบริษัทฯที่มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านแอปพลิเคชัน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ไทย และพัฒนาการท่องเที่ยวให้เติบโตยิ่งขึ้น และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อสถานการณ์แผ่นดินไหวและแนวทางการรับมือมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ต่อไทย
นอกจากนั้นได้หารือแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวและซอฟต์พาวเวอร์ไทย โดยรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวและซอฟต์พาวเวอร์ไทยอย่างต่อเนื่อง ในฐานะฟันเฟื่องสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเดือนเม.ย.ซึ่งถือเป็นช่วงไฮท์ซีซันของไทย และได้วางมาตรการและแนวทางสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศ ทั้งนี้รัฐบาลต้องการร่วมมือกับบริษัทฯ ในการสนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ผ่านการส่งเสริมอาหารไทย และภาพยนตร์ไทย เป็นต้น โดยบริษัทฯ สามารถร่วมมือกับ THACCA (Thailand Creative Content Agency) เพื่อสนับสนุนประเด็นดังกล่าว และแสวงหาแนวทางความร่วมมือระหว่างกันเพิ่มเติมต่อไป
ด้านประธานบริษัทแกร็บฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าบริษัทฯ พร้อมสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวและซอฟต์พาวเวอร์ไทย โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ ของไทย มาอย่างต่อเนื่อง และมีแผนจะขยายการลงทุนในไทยเพิ่มเติม ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานในไทยจำนวนมาก โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนการลงทุนของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ พิจารณาขยายการลงทุนไปยังพื้นที่เมืองรองของไทยมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ต้องการยกระดับอุตสาหกรรมเรียกรถในไทย ผ่านการสนับสนุนให้คนขับทำใบขับขี่สาธารณะและจดทะเบียนรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการให้บริการรับจ้างโดยใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่รัฐบาลให้ความสำคัญด้วย