เปิดแนวคิด‘วรวิทย์-นาฏนุช’ ใช้‘น้ำเกลือ’ปั้นธุรกิจครอบครัว

ช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจสตาร์ตอัพที่เพิ่งเปิดใหม่จะอยู่รอดไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นเดียวกับวิธีการจะอยู่รอดให้ได้ต้องทำอย่างไร วันหนึ่งได้พูดคุยกับเจ้าของธุรกิจสตาร์ตอัพครอบครัวรายหนึ่ง ซึ่งเปิดทำการมาแล้วกว่า 8 ปี บริหารงานโดย วรวิทย์ วงศ์ศรีรุ่งเรือง (คุณพ่อโจ) Director และ นาฏนุช วงศ์ศรีรุ่งเรือง (คุณแม่แพร) Founder, CEO บริษัท เฌอร์คุณฎา จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เด็กภายใต้ แบรนด์ “Tiny Nose” (ไทนี่โนส)

โดยพ่อโจ-แม่แพรสลับกันเกริ่นถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจว่า “พอเรามีลูกสาวคนแรก (เอลิฎา วงศ์ศรีรุ่งเรือง ปัจจุบันอายุ 11 ขวบ) เป็นเด็กแพ้ง่าย ต้องหาหมอบ่อย บ่อยๆ เข้าคุณหมอแนะนำว่าไปที่ใดก็ต้องพกน้ำเกลือไปตลอดเพื่อทำความสะอาด ซึ่งเมื่อก่อนการจะใช้น้ำเกลือแต่ละครั้งต้องมีหลายสิ่ง ทั้งน้ำเกลือขวดที่มีขนาดใหญ่ สำลี ทิชชู ทั้งไม่สะดวกและยุ่งยาก ค่าใช้จ่ายก็สูง เราก็มาคิดน่าจะมีอะไรที่สะดวกสบายกว่านี้ ตอนนั้นเมืองไทยยังไม่มีการผลิตทิชชูชุบน้ำเกลือขายทั่วไป จึงอยากลองทำเพื่อใช้กับลูกก่อน เห็นว่าใช้ได้ดี ไม่แพ้ สะดวก ก็ลองทำเพื่อจำหน่าย ส่วนตัวเชื่อว่าตอนนั้นเราเป็นเจ้าแรกที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าเปียกน้ำเกลือสำหรับเด็ก เริ่มจากขายผ่านออนไลน์ก่อน”

ยังเล่าต่อถึงแนวคิดต่อยอดจากน้ำเกลือ ด้วยประโยชน์ของน้ำเกลือไม่ต้องอธิบาย หรือมีการรับรองจากองค์กรใด ข้อมูลทั่วไปรับรู้กันแล้วว่าน้ำเกลือเป็นสารน้ำที่นิยมใช้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทั้งในและนอกสถานพยาบาล นอกจากใช้ทำความสะอาดบาดแผลแล้วยังมีประโยชน์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะใช้ชำระล้างจมูก หรือดวงตา บ้วนปาก หรือล้างคอ ล้างคอนแท็กต์เลนส์ แม้แต่เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าในบ้างครั้งครา โดยน้ำเกลือช่วยลดแบคทีเรียบางชนิดอันเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพที่กำลังเป็นอยู่ หรืออาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เรียกว่าป้องกันดีกว่าแก้

ADVERTISMENT

เมื่อ Tiny Nose เป็นที่รู้จักพอควร แผนการขยับขยายธุรกิจค่อยๆ ทยอยออกมา มีการรวมกลุ่มเพื่อนนักธุรกิจในแขนงต่างๆ ร่วมกันพัฒนาคิดค้นเป็นสินค้าเฉพาะตัว ด้วยเป็นธุรกิจที่เพิ่งตั้งไข่ เงินทุนหมุนเวียนใช้การซื้อมาขายไป คุณพ่อโจจึงอาศัยทักษะความรู้ที่เรียนมาในด้านออกแบบดีไซน์ชำนาญด้านหีบห่อเป็นพิเศษ สร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเพิ่มฝาปิดเปิด ปรับขนาด เพิ่มกลิ่นที่เด็กชื่นชอบ เช่น กลิ่นองุ่น อิงผลวิจัยว่าเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 ขวบ รับรู้ได้ดีกับกลิ่นองุ่น ด้วยกลิ่นนี้ถูกนำไปปรุงในยาลดไข้ของเด็กเล็ก หรือขนมสำหรับเด็กเล็ก อีกทั้งจูงใจการซื้อผ่านการเพิ่มคอลเล็กชั่นพิเศษตามฤดูกาล เช่น ดีไซน์ที่มีสีสัน กล่องบรรจุสีเรืองแสง เป็นต้น

 

ADVERTISMENT

“ระหว่างทางกว่าจะถึงวันนี้ก็มีเหตุการณ์กดดันกำลังใจเราหลายครั้ง ทั้งเรื่องความขัดแย้งในกลุ่มผู้ก่อตั้ง โรงงานที่จ้างผลิตเอาไอเดียเราไปขายกับลูกค้ารายอื่น ยังเจอผลจากความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ ถึงตอนนี้ยังมีความกังวลของสงครามการค้าของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่กระทบต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ที่หนักสุดคือการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หลังจากที่เราเพิ่งเพิ่มช่องทางจากออนไลน์เข้าออฟไลน์ วางขายในร้านยา ในห้างร้านค้าทั่วไป ต้องปิดตัวหมด ร้านค้าหลายยี่ห้อที่มีสาขา 300-400 แห่ง ต้องปิดหมด แต่เรายังดีที่สามารถประคองตัวได้จากการขายในออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางแรกของเรา หลายสินค้าขายไม่ได้ แต่สินค้าเรายังขายได้ ยังเติบโตแม้จะในอัตราที่ไม่เหมือนก่อนหน้านั้น ตอนนั้นเราก็เล่นกับการทำตลาดแบบเพิ่มสีสัน ปรับจำนวนชิ้นให้มากขึ้น จากปกติห่อละ 20 ชิ้น กับ 50 ชิ้น ก็เพิ่มห่อประหยัด 80 ชิ้น จัดโปรโมชั่นทั้งปกติและตามฤดูกาล ศึกษาการตั้งราคาที่เหมาะสม โดยเราอิงจากทิชชูที่ใช้กันทั่วไป และทิชชูพรีเมียมที่เป็นการผลิตและนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเรายึด 1 หรือ 1.5 เท่าของต้นทุน จนเดี๋ยวนี้คู่แข่งเก่าหรือใหม่จะใช้ราคาของเราเป็นฐาน”

คุณพ่อโจเล่าถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบันว่า หลังจากโควิดคลี่คลายก็เริ่มกลับมาดู ทบทวนธุรกิจและสำรวจตัวเราเองว่าต้องการอะไร จะวางตำแหน่งของสินค้าอย่างไร วันนี้ Tiny Nose ได้รับความนิยมจากคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ทั่วประเทศ มีฐานหลายหมื่นคนในระบบออนไลน์ของเราที่เป็นลูกค้าต่อเนื่องและซื้อสินค้าใช้กันทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะออกสินค้าใดเขาก็จะซื้อ ทั้งตัวสินค้าได้รับรางวัล Best Baby Wipe จาก Amarin Baby & Kids Awards ถึง 2 ปีซ้อน จึงมั่นใจแล้วว่าการเข้าปีที่ 10 ในปีหน้า 2569 ปี 2568 นี้ต้องคิกออฟผลักดันธุรกิจและสร้างความรับรู้ครั้งใหญ่ ทั้งการออกสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ การเพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย การแสวงหาพันธมิตรและการเปิดตลาดส่งออก

“เมื่อเรามีน้องเอมินดา วงศ์ศรีรุ่งเรือง ตอนนี้อายุ 2 ขวบครึ่ง เรามีแนวคิดแตกไลน์สินค้าอีกครั้ง เป็นสินค้าที่เราก็ทดลองใช้ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไป คือสเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูก Salinex Mist Baby นวัตกรรมที่ผสานเทคโนโลยี Ultra-Micro Diffuser (อัลตรา ไมโคร ดิฟฟิวเซอร์) สร้างน้ำเกลือละอองหมอกที่อ่อนโยน เคลียร์จมูกให้โล่ง หายใจคล่อง แรงพ่นไม่ระคายเคืองต่อเด็กเล็ก ใช้ได้ตั้งแต่ทารก 1 เดือนขึ้นไป เรามั่นใจว่าเราเป็นรายแรกและรายเดียว ซึ่ง Salinex จะเป็นอีกแบรนด์ที่รองรับการแตกไลน์สินค้าในอนาคต”

คุณพ่อโจเล่าอีกว่า เราวางวิสัยทัศน์มาตลอด จะมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์ความต้องการของพ่อแม่ยุคใหม่ ผลิตภัณฑ์ก่อนออกตลาดจะทุ่มเทศึกษาค้นคว้าและเก็บรวบรวมประสบการณ์จากผู้ใช้งานจริงนับหมื่นราย อีกทั้งเจ้าของบริษัทอย่างเราก็เป็นพ่อแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยเดียวกับกลุ่มเป้าหมาย จึงเข้าใจถึงความต้องการของผู้ใช้งานอย่างลึกซึ้ง ด้วยเหตุนี้เราจึงนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาด ทั้งสินค้าภายในประเทศและสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อนำจุดเด่นมาพัฒนาและปรับปรุงจุดด้อยให้ดียิ่งขึ้น จนได้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแท้จริง อีกทั้งให้ความสำคัญกับเรื่องที่หลายคนมองข้าม คือเลือกที่จะผลิตสินค้าทุกตัวภายในประเทศด้วยเหตุผลหลัก 2 ข้อคือ การปนเปื้อนเชื้อโรคระหว่างขนส่ง รวมทั้งขั้นตอนการผลิตและมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ที่รับรองโดยองค์การอาหารและยาของประเทศไทย

สำหรับจุดเริ่มต้นของการพัฒนา Salinex Mist Baby (ซาลิเน็กซ์ มิสต์ เบบี้) เกิดจากการตระหนักถึงปัญหาโรคทางเดินหายใจในเด็ก งานวิจัยหลายฉบับพบว่า โรคทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพของเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยรุ่น โดยเฉพาะฤดูหนาวและช่วงมีฝุ่น PM2.5 สูงๆ ซึ่งก่อเกิดโรคเพิ่มขึ้น ทั้งแง่ความถี่และความรุนแรง ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ยังมีให้เห็น การใช้นวัตกรรมอัลตรา ไมโคร ดิฟฟิวเซอร์ ที่ทำให้ได้น้ำเกลือละอองละเอียด ใช้เกลือทะเลคุณภาพจากนิวซีแลนด์ ช่วยละลายคราบขี้มูกแห้งกรัง ช่วยล้างฝุ่น PM2.5 มีค่า pH ที่สมดุล ทำให้จมูกโล่ง หายใจสดชื่น เพิ่มความชุ่มชื้นให้โพรงจมูก พร้อมหัวสเปรย์ที่ออกแบบสำหรับจมูกของเด็กโดยเฉพาะ ไร้กังวลเรื่องการสำลัก และทำให้เด็กรู้สึกสนุกกับการทำความสะอาดจมูกมากขึ้น พกพาสะดวก ปราศจาก SLS SLES พาราเบน และแอลกอฮอล์ และเพื่อเติมสีสันให้กับตัวสินค้า ได้นำลายคาแร็กเตอร์ขวัญใจเด็กทั่วโลกจากแอนิเมชั่นเรื่อง Cocomelon (โคโค่เมลอน) บนบรรจุภัณฑ์ 3 ดีไซน์ เป็นสเปเชียลเอดิชั่น เราเชื่อว่าตลาดผลิตภัณฑ์สเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูกในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง กับภาวะฝุ่นและโรคติดต่อทางเดินหายใจยังไม่หมดไป ปีนี้ประเมินว่าตลาดมีมูลค่ากว่า 120 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่เติบโตปีละ 5-7% เราตั้งเป้า Salinex Mist Baby ปี 2568 ไว้ที่ 120,000-140,000 ขวด

“แม้ตอนนี้กำลังซื้อและความกังวลต่อปัจจัยในประเทศและนอกประเทศมีต่อเนื่อง กับสิ่งที่เราทำมา วันนี้เราหลับตา ไม่ทำอะไรเพิ่ม ก็เชื่อว่าขายได้เท่าเดิม แต่เราเห็นถึงโอกาสและช่องว่างในหลายสินค้าที่เราอยู่ระหว่างการพัฒนาที่เป็นการต่อยอดจากประโยชน์ของน้ำเกลือ อาทิ ทิชชูน้ำเกลือสำหรับผู้สูงวัย ทิชชูน้ำเกลือเพื่อทำความสะอาดในช่องปากที่มีการคุยกับทันตแพทย์ สเปรย์พ่นจมูกของผู้สูงวัย หรือวัยทำงาน ที่ต้องปรับแรงพ่นให้มากกว่าเด็กทารก น่าจะเป็นเจ้าแรกเช่นกัน รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสามารถย่อยสลายได้ เพื่อการปูพื้นฐานส่งออกไปตลาดยุโรป ปีนี้เราคิกออฟธุรกิจและแตกไลน์สินค้าใหม่ๆ จะดันยอดขายทั้งปีเกิน 40 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 20 ล้านบาท และมีโอกาสถึง 60 ล้านบาท ดูจากหลังวางขายสเปรย์พ่นจมูก บรรจุในขวดขนาด 80 มล./ขวด ราคา 325 บาท 3 เดือนแรกยอดขาย 5 หมื่นขวด เกินเป้าวางไว้เฉลี่ย 1 แสนขวด ในอนาคตช่วง 3 ปีจากนี้จากแผนที่เตรียมไว้ ตอนนั้นบริษัทครบรอบ 12 ปี ตั้งเป้าจะมียอดขายถึง 300 ล้านบาท ตอนนี้เราไม่ได้กังวลต่อปัจจัยที่เกิดขึ้นเท่ากับกังวลเรื่องถูกลอกเลียนแบบ”

ทั้งคุณพ่อโจและคุณแม่แพรทิ้งท้ายว่า เฌอร์คุณฎาเสมือนอยู่ในช่วงขยายครอบครัว จากครอบครัวกลายเป็นธุรกิจเต็มรูปแบบ เน้นการเพิ่มยอดขาย จากจุดเด่นที่เราสะสมมา คงเป็นธุรกิจให้มั่นใจได้ว่า เจ้าของทำเองทั้งพัฒนา ออกงานสำรวจความต้องการของตลาด ทุกสินค้าที่จะออกตลาดเน้นแนวคิด “ป้องกัน แก้ไข และซ่อมแซม” เพื่อสู่เป้าหมายผู้นำตลาดสินค้าผสมน้ำเกลือสำหรับผู้ใช้ในครอบครัว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image