อนันดาฯ มั่นใจคอนโดเมืองไปต่อ หลังวิกฤตคลี่คลาย ชี้ มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ช่วยหนุนตลาดฟื้นตัว

อนันดาฯ มั่นใจคอนโดเมืองไปต่อ หลังวิกฤตคลี่คลาย ชี้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ช่วยหนุนตลาดฟื้นตัว

เมื่อวันที่ 21 เมษายน นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่อจากนี้คาดว่าจะมีความท้าทาย และความไม่แน่นอนเกิดขึ้นตลอดเวลา ทุกองค์กรต้องปรับตัว ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปให้ได้ เช่นเดียวกับ อนันดาฯ ได้มีการวางแผนเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความเสี่ยง และความไม่แน่นอนต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมรองรับ ปรับเปลี่ยน ยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยมองว่ามาตรการต่างๆ ที่ทางภาครัฐออกมาช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์จะสามารถเป็นตัวช่วยให้ความมั่นใจกลับมาดีขึ้น เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงทุกอย่างก็จะกลับสู่ภาวะปกติ และเชื่อมั่นว่าเมืองยังคงไปต่อ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการอาศัยในเมือง อยู่ใกล้แหล่งงาน แหล่งช้อปปิ้ง มีความสะดวกสบายในการเดินทาง จึงจำเป็นต้องเลือกอาศัยในคอนโดมิเนียมที่มีราคาจับต้องได้ เพราะเมือง คือ ศูนย์รวมแห่งการพัฒนาด้านการศึกษาแหล่งความรู้ แหล่งงาน และองค์กรชั้นนำ

“บริษัทยังคงเน้นย้ำและให้ความสำคัญกับการรักษาวินัยทางการเงินไว้อย่างเข้มงวด โดยรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน ณ สิ้นปี 2567 ไว้ที่ 1.22 เท่า และยึดมั่นในการชำระคืนหุ้นกู้ทุกงวดตามกำหนด โดยที่ผ่านมาได้ชำระคืนหุ้นกู้เต็มจำนวนตามกำหนด 100% ในปี 2566 – ไตรมาส 1/68 มูลค่ารวม 15,652 ล้านบาท และเตรียมชำระคืนหุ้นกู้ตามกำหนด ในวันที่ 9 มิถุนายน 2568 มูลค่า 2,276 ล้านบาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัททุกราย”

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดาฯ กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ หลังจากนี้ ยังเป็นปีแห่งการประคับประคองธุรกิจ แม้จะมีปัจจัยหนุนจากแรงกระตุ้นของมาตรการภาครัฐที่ผลักดันการปลดล็อกมาตรการ LTV ให้ชั่วคราว รวมถึงมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจำนอง 0.01% ถือว่าเป็นมาตรการที่ออกมาในจังหวะที่ดีหลังตลาดอสังหาฯ เจอวิกฤตจากแผ่นดินไหวและการประกาศขึ้นภาษีของทรัมป์ ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ทั้งยอดขายและยอดโอน โดยภาพรวมมองว่าตลาดอสังหาฯ ยังมีปัจจัยบวกที่มาช่วยสนับสนุนทำให้ตลาดกลับมาฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ชะลอตัวจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ จากมาตรการดังกล่าว อนันดาฯ จะได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่ในด้านการโอนโครงการต่างๆ มีโครงการระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท สูงกว่า 40% ของ Backlog ที่โอนภายในปีนี้ ซึ่งเข้าเกณฑ์ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ โดยในปี 2568 นี้อนันดาฯ มียอด Strong Backlog แล้วกว่า 11,371 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79% จากเป้าหมายยอดโอน 14,500 ล้านบาท มีแผนที่จะโอนโครงการใหม่ คือ โครงการพร้อมเข้าอยู่ใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการไอดีโอ รามคำแหง-ลำสาลี สเตชั่น พร้อมโอนในไตรมาส 2 ส่วนโครงการคัลเจอร์ ทองหล่อ และโครงการคัลเจอร์ จุฬา พร้อมโอนในไตรมาส 3 มูลค่ารวมทั้ง 3 โครงการกว่า 12,078 ล้านบาท ทำให้บริษัทมั่นใจว่ายอดโอนปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน และคาดว่าจะช่วยหนุนยอดโอนและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯปีนี้

ADVERTISMENT

โดยในไตรมาสแรกของปี 2568 นี้ สามารถสร้างยอดขายกว่า 3,677 ล้านบาท ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือคิดเป็น Achieved 114 % และมีสัดส่วนยอดขายลูกค้าต่างประเทศกว่า 53% ของยอดขายรวมในไตรมาส 1 ปี 2568 เป็นการส่งสัญญาณดีขึ้น จึงให้ความเชื่อมั่นว่าการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินที่ได้นำเงินมาใช้ในการขยายธุรกิจตามวัตถุประสงค์ รองรับการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศตามแผนงานที่วางไว้

นายประเสริฐกล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่สร้างความกังวลให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมและอาคารสูงที่กังวลว่าจะได้รับผลกระทบ แต่อาคารสูงในประเทศไทยสามารถรับมือกับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงหรือการพังถล่มของโครงสร้างหลักเลยแม้แต่กรณีเดียว มาตรฐานการก่อสร้างอาคารของไทยยังคงจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก และได้รับการออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวอย่างรัดกุมด้วยมาตรฐานการก่อสร้างต้านทานแผ่นดินไหว ปี 2550 ถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นอุตสาหกรรมคอนโดมิเนียมยังมีระบบประกันภัยรองรับ 5,994 โครงการวงเงินคุ้มครอง 3.8 ล้านล้านบาท จากการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยกว่าปีละ 2,200 ล้านบาทซึ่งไม่ต้องพึ่งพิงจากภาครัฐ มองว่าตลาดคอนโดมิเนียมจะได้รับผลกระทบในระยะสั้น เพราะเมื่อความตื่นตระหนกและความกังวลคลี่คลายลงผู้บริโภคจะตระหนักและให้ความสำคัญกับการเลือกคอนโดมิเนียมที่มีมาตรฐานความปลอดภัย มั่นใจว่าดีมานด์จะกลับมาสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว อนันดาฯ ให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในทุกโครงการ ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบโครงสร้างอาคารสูงโดยทีมผู้บริหารระดับสูงนำโดยคุณชานนท์ เรืองกฤตยา พร้อมทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ ร่วมกับนิติบุคคลของอาคาร วิศวกรจากภายนอกและเจ้าหน้าที่ของกทม. โดยได้รับการรับรองความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ของ กทม. ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างและระบบความปลอดภัยอย่างละเอียด ทั้งในโครงการที่ส่งมอบแล้ว และโครงการที่อยู่ในระหว่างพัฒนา ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 3 เมษายน 2568 ครบทั้ง 95 โครงการ ได้แก่ คอนโดมิเนียม 69 โครงการ บ้านและทาวน์โฮม 26 โครงการ โดยอนันดาฯ ได้ดำเนินงานตามขั้นตอนภายใต้มาตรฐาน ANANDA SURE อย่างเร่งด่วนและเป็นระบบ

เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้การดูแลของอนันดาฯ ยังคงมีความแข็งแรง ปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรมที่เคร่งครัด นอกจากนี้ อนันดาฯ จะเป็นผู้ประสานงานกับผู้ดูแลในการเข้าไปดำเนินการซ่อมแซมและปรับปรุงให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้อยู่ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน* (IAR หรือ Industrial all risk) ที่นิติบุคคลอาคารชุดได้จัดทำไว้เพื่อการคุ้มครองห้องพักอาศัยและทรัพย์สินส่วนกลาง โดยโครงการคอนโดมิเนียมของอนันดาฯ มีประกันภัยคุ้มครองอาคารและห้องชุด* เพื่อช่วยลดความกังวลจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด รวมมูลค่าทุนประกันภัย 76,844 ล้านบาท ลูกบ้านอุ่นใจกับวงเงินประกันภัยความคุ้มครองภายในห้องชุด 100,000 – 200,000 บาท / ห้องชุด

นายประเสริฐกล่าวว่า ปีนี้เตรียมเปิดโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหม่ บนทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ คือ สะพานควาย มูลค่าโครงการ 8,820 ล้านบาท และ จุฬาฯ มูลค่าโครงการ 5,440 ล้านบาท นอกจากนี้ ได้วางกลยุทธ์การกระจายการลงทุนด้วยการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยหลากหลายประเภทและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันในตลาด โดยการขยายไปสู่การพัฒนาโครงการระดับ Ultra Luxury ได้แก่ โครงการ ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก โครงการที่พักอาศัยระดับอัลตร้า ลักชัวรี แห่งแรกในเอเชีย มูลค่า 15,000 ล้านบาท จากความร่วมมือระหว่าง อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กับ ปอร์เช่ ดีไซน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบระดับโลก ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพสูงสุดของกรุงเทพฯ สุขุมวิท 38 ย่านทองหล่อ ที่เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์แห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครที่จะมีการเปิดโชว์ยูนิตให้ผู้สนใจได้เข้าเยี่ยมชมในช่วงกลางปี 2568 นี้ และโครงการ MIRA VALLEY (มิรา วัลเลย์) โครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี มูลค่า 50,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 550 ไร่ บริเวณเทือกเขากมลาและอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำใจกลางจังหวัดภูเก็ต นิยามใหม่ของความหรูหราภายใต้แนวคิด “Green is the New Luxury” ที่ผสานความหรูหราเข้ากับความยั่งยืน โดยพัฒนาโครงการภายใต้มาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบยั่งยืน รวมถึงการใช้ระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน 100% เพื่อลดผลกระทบต่อทัศนียภาพ