นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในปี 2560 อุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (แพคเกจจิ้ง) จะเติบโตขึ้น 5% มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 3 แสนล้านบาท ทั้งนี้มองว่าทิศทางอุตสาหกรรมการพิมพ์ฯ ในช่วง 3 ปีหลังจากนี้จะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ไม่น้อยกว่า 5% ต่อปี จากปัจจัยเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น นโยบายการส่งออกของรัฐบาล รวมถึงการเติบโตของการค้าขายแบบออนไลน์หรือช่องทางอีคอมเมิร์ซ
นายเกรียงไกรกล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะพบว่าธุรกิจสิ่งพิมพ์ กระดาษและหนังสือต่างๆ เติบโตลดลง เนื่องจากผู้บริโภคหันไปเสพสื่อในช่องทางออนไลน์หรืออ่านหนังสืออีบุ๊คเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันจะเห็นว่าอุตสาหกรรมแพคเกจจิ้งเติบโตขึ้นมาก จากการเติบโตของเทคโนโลยี และการแข่งขันในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องสำอางและอะไหล่ยนต์ ดังนั้นเราจึงเห็นว่าในปัจจุบันจะมีนวัตกรรมของแพ็คเกจจิ้งที่หลากหลาย อาทิ ฉลากเปลี่ยนสี
นายนภดล ไกรฤกษ์ นายกสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย เปิดเผยว่า เทรนด์ดิจิทัลจะทำให้ลดการบริโภคจากกระดาษ แต่จะทำให้เกิดนวัตกรรมแพคเกจจิ้งใหม่ๆ มากขึ้น หรือเรียกว่าเป็นสมาร์ทแพคเกจจิ้ง จึงมองว่าในยุค 4.0 เส้นแบ่งระหว่างอุตสาหกรรมการพิมพ์กับอุตสาหกรรมแพคเกจจิ้งจะลดน้อยลง ผู้ประกอบการจะพยายามสร้างสรรค์การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ดังนั้นเพื่อเป็นเวทีการแลกเปลี่ยนและเจรจาธุรกิจ (บิสซิเนสแมทชิ่ง) สมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย สมาคมการพิมพ์ไทย และเมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จะร่วมมือกันจัดงาน “แพค พริ้นท์อินเตอร์เนชั่นแนล 2017” เป็นครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 20-23 กันยายน 2560 ที่ไบเทค บางนา โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 15,000 คน และคาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในงาน และต่อเนื่องหลังการจัดงานประมาณ 300-500 ล้านบาท
