นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจบริการไพรเวทแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายจำนวนลูกค้าไพรเวทแบงก์กิ้งที่มีเงินฝากและเงินลงทุนตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป และมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(เอยูเอ็ม) ปี 2560 เติบโตเพิ่มขึ้น 15% จากปัจจุบันที่มีฐานลูกค้ากว่า 1 หมื่นราย และเอยูเอ็มรวม 7 แสนล้านบาท โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากการออกผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า พร้อมทั้งร่วมกับบริษัทไนท์แฟรงค์ ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และการส่งบุตรหลานศึกษาต่อในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนยังมีความน่าสนใจ เพราะช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจำนวนซัพพลายที่ออกมาใหม่มีน้อย ทำให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 90% หากซื้อเพื่อปล่อยเช่าอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 3.5-5% ขึ้นอยู่กับทำเล ทั้งนี้พบว่าตั้งแต่ที่มีการสหราชอาณาจักรได้ลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป(เบร็กซิท) ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง 8% เป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนเพื่อลงทุนหรือเพื่อให้ลูกอยู่อาศัยค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่ากว่า 20% เมื่อเทียบกับค่าเงินบาท ทำให้สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ราคาถูกลง และยังสามารถต่อรองราคาได้มากขึ้น โดยปีที่ผ่านมา มีลูกค้าไพรเวทแบงก์กิ้งของธนาคารกสิกรไทยซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน 11 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 720 ล้านบาท แบ่งเป็นอพาร์ทเมนต์ 9 ยูนิต มูลค่ากว่า 463 ล้านบาท และบ้าน 2 ยูนิต มูลค่ากว่า 257 ล้านบาท สำหรับปี 2560 ตั้งเป้าหมายยอดขาย 30 ยูนิต มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท
