‘คมนาคม’ประเมินคนออกตจว.ช่วงสงกรานต์ทะลุ 35 ล้านคน/เที่ยว

นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2560 ที่กรมการขนส่งทางบก ว่า ทางกระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนถนนทุกประเภท ให้มีผู้เสียชีวิตเป็น 0 โดยได้มอบหมายทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงให้ไปดำเนินมาตรการที่สามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้ทันทีและเห็นผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม ทั้งมาตรการก่อนถึงช่วงเทศกาล ช่วงเทศกาล และการรวบรวมวิเคราะห์หลังสิ้นสุดเทศกาล รวมถึงทุกหน่วยงานยังต้องมีการประสานงานต่างๆ ระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงและภาคีเครือข่าย เพื่อให้มีระบบจัดการข้อมูลเพื่อเข้าถึงสถานการณ์ได้ทันทีตลอด 24 ชม. ให้พร้อมต่อการตัดสินใจอย่างเร่งด่วนของผู้บริหารกระทรวงคมนาคม

“คาดว่าช่วงสงกรานต์ปีนี้น่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวราว 35.5 ล้านคน/เที่ยว เพิ่มขึ้นจากในปีที่ผ่านมาที่มีสถิติการเดินทางอยู่ที่ 20 ล้านคน/เที่ยว โดยเบื้องต้นทางกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ขนส่งสาธารณะแต่ละประเภทอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งเบื้องต้นมีการเตรียมรถโดยสารในการอำนวยความสะดวกไว้ทั้งสิ้นราว 550,000 เที่ยว จึงเชื่อว่าน่าจะเพียงพอต่อการให้บริการอย่างแน่นอน” นายธีระพงษ์กล่าว

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งฯได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัท ขนส่ง จำกัด, ทหาร, ตำรวจ, สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาท้องถิ่น และกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินมาตรการ “สแกนรถโดยสาร” ด้วยการตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะทุกคัน และพนักงานขับทุกคน ในทุกสถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอดรถที่กำหนด รวม 212 แห่งทั่วประเทศ ตามรายการตรวจสอบที่กรมการขนส่งฯจัดทำขึ้น ตั้งแต่วันที่ 5-24 เมษายน เช่น การติดตั้งระบบ GPS Tracking ในรถตู้และรถโดยสารสาธารณะ การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยต้องมีครบทุกที่นั่ง สามารถใช้งานได้ จำนวนที่นั่งต้องไม่เกินที่กำหนด ตำแหน่งติดตั้งที่นั่งต้องไม่ขวางประตูฉุกเฉิน สภาพยางและล้อต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นต้น

ในส่วนพนักงานขับรถ จะตรวจใบอนุญาตขับรถ ตรวจความพร้อมของร่างกาย ตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์ที่ต้องเป็น 0 โดยหากพบว่ามีรถหรือพนักงานขับรถไม่พร้อม ต้องเปลี่ยนทันที แต่หากผู้ประกอบการ หรือพนักงานขับรถฝ่าฝืนกระทำผิดกฎหมาย หรือกระทำผิดในลักษณะซ้ำซาก จะดำเนินมาตรการลงโทษตั้งแต่สั่งห้ามใช้รถ ห้ามขับรถ ไปจนถึงเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายแก่ผู้โดยสาร ทั้งนี้ไม่เพียงแต่มาตรการตรวจความพร้อมของคนและรถก่อนออกเดินทาง ทางกรมการขนส่งฯยังจัดสายตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะด้วยกล้องเลเซอร์ในเส้นทางสายเข้า-ออกกรุงเทพฯ ควบคู่กับการติดตามรถโดยสารทุกคันผ่านระบบ GPS

Advertisement

นายสนิทกล่าวว่า สำหรับประชาชนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว กรมการขนส่งฯร่วมกับหน่วยงานเอกชนทั้ง 2,300 แห่งทั่วประเทศ ให้บริการ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลสงกรานต์” จากนี้ถึง 24 เมษายน 2560 ที่สถานประกอบการที่มีป้าย “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลสงกรานต์” รวมถึงกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปภ.) ยังได้สนับสนุนงบประมาณให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจัดนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคและวิทยาลัยการอาชีพตั้งจุดบริการอำนวยความสะดวกประชาชน เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง บนถนนสายหลักทั่วประเทศ โดยให้สังเกตสัญลักษณ์ “กรมการขนส่งทางบก Everyday for Everyone ทุกๆ วันเพื่อทุกคน”

นายสนิทกล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวการห้ามนั่งท้ายรถกระบะและเบาะนั่งหลังคนขับที่ไม่มีเข็มขัดนิรภัย ซึ่งอาจกระทบต่อการโดยสารรถกลับต่างจังหวัดของประชาชน โดยในประเด็นดังกล่าวอยากให้เข้าใจว่าที่มีการกำหนดมาตรการเช่นนี้ออกมาก็เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ด้วยการป้องกันความรุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุ และสามารถเดินทางถึงปลายทางได้อย่างปลอดภัย ส่วนการที่ประชาชนไม่สามารถโดยสารท้ายกระบะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดได้ ทางกรมการขนส่งฯก็เห็นว่าประชาชนสามารถโดยสารรถสาธารณะประเภทอื่นแทนได้ ซึ่งมีจำนวนพอเพียงต่อการใช้บริการ

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image