โลกกำลังปรับโฉมสู่เศรษฐกิจสีเขียว แต่สำหรับ SME ไทย โดยเฉพาะผู้ส่งออกไปยุโรป นี่ไม่ใช่แค่ “กระแส” แต่คือ “กติกาใหม่” ที่ส่งผลต่อการอยู่รอดและโอกาสทางธุรกิจโดยตรง การขาดระบบวัดคาร์บอนที่ชัดเจน หรือไม่สามารถแสดงข้อมูลการปล่อยคาร์บอน อาจหมายถึงต้นทุนที่สูงขึ้นทันทีจากภาษีคาร์บอน เช่น มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (CBAM: Carbon Border Adjustment Mechanism) ของสหภาพยุโรป (EU) ที่จะเริ่มบังคับใช้เต็มรูปแบบในปี 2569 คุณจะถูกบีบให้เผชิญกับคู่แข่งที่พร้อมกว่า การปรับตัวก่อนจึงไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณรอด แต่ยังสร้างความได้เปรียบ และเพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ลดคาร์บอนไม่ง่าย แต่ไม่ทำ…ยากกว่า
SME หลายรายเริ่มต้นลดคาร์บอนด้วยความตั้งใจ แต่กลับไม่ถึงเป้าหมายเพราะขาด “แผนที่” และ “เครื่องมือ” ที่เหมาะสม ปัญหาที่พบบ่อย เช่น ความไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี พอเจอคำศัพท์เทคนิคอย่าง Carbon Accounting, LCA, Scope 1-2-3 ก็จะรู้สึกว่าซับซ้อนและกลัวการจะเริ่มต้น
นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนที่ผิดจุด หลายธุรกิจทุ่มงบประมาณไปกับเทคโนโลยีราคาแพงแต่กลับไม่ตอบโจทย์บริบทธุรกิจของตน หรือใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และสุดท้ายคือการพยายามทำทุกอย่างคนเดียว ทั้งที่การลดคาร์บอนต้องอาศัยความร่วมมือจากซัพพลายเออร์ ลูกค้า และภาครัฐ แต่กลับมุ่งเน้นการปรับปรุงภายในโดยไม่ได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือที่จำเป็น
การลดคาร์บอนไม่ใช่แค่ “มีใจ” แต่ต้อง “มีระบบ” และ “มีคนร่วมมือ” ถึงจะเวิร์กในระยะยาว และที่สำคัญ ต้องเป็น “Sustainable Solutions” ที่ตอบโจทย์ทั้งการลดคาร์บอนและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตไปข้างหน้าได้โดยไม่ต้องแบกรับภาระเพิ่ม
ถอดรหัสจากตัวอย่างธุรกิจจริง: โอกาสซ่อนอยู่ในความท้าทาย
มาดูกันว่าธุรกิจในแต่ละภาคส่วนกำลังรับมือกับความท้าทายและคว้าโอกาสอย่างไร
⦁ภาคการผลิต:
เมื่อ CBAM คือ “ผู้คุมกฎ” คนใหม่ของผู้ส่งออกไปยังยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มซีเมนต์ พลังงานไฟฟ้าปุ๋ย เหล็ก อะลูมิเนียม และไฮโดรเจน ที่ CBAM จะเริ่มบังคับใช้เต็มตัวในปี 2569 หาก SME ไทยไม่ปรับตัวสู่การผลิตคาร์บอนต่ำ อาจถูกเก็บภาษีสูงถึง 73.4 EUR/TonCO2e (ข้อมูล ณ เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา)นี่จึงไม่ใช่แค่เรื่องจะพยายามลดคาร์บอนแต่คือการรักษาความสามารถในการแข่งขัน
ตัวอย่างเช่น ในประเทศเยอรมนี โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ทำให้ลดภาระภาษี CBAM ได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังได้รับความเชื่อมั่นจากคู่ค้าในยุโรป ทำให้สามารถรักษาฐานลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้
โอกาสของ SME ไทย เช่น การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพขึ้น หรือเริ่มต้นจากติดตั้งระบบหลังคาโซลาร์เซลล์ หรือโซลาร์รูฟ นอกจากจะลดการปล่อยคาร์บอนแล้ว ยังช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาวซึ่งเป็นต้นทุนก้อนใหญ่ของภาคการผลิต เช่น หาก SME ใช้ไฟในช่วงกลางวันเป็นหลัก การติดตั้งโซลาร์รูฟขนาด 50 kW จะสามารถลดค่าไฟฟ้าได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 30,000 บาท และสามารถคืนทุนได้ภายใน 5-6 ปี
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ติดตั้งและอัตราการใช้ไฟฟ้า และหากเทคโนโลยีที่ใช้ในการ “ESS” Energy Storage System หรือระบบกักเก็บพลังงานสำหรับพลังงานหมุนเวียนมีราคาถูกลง จะยิ่งช่วยเสริมให้การใช้พลังงานสะอาดมีเสถียรภาพ และเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับทุกคน
⦁ภาคการขนส่ง:
ประเทศไทยเองก็กำลังก้าวเข้าสู่ยุคภาษีคาร์บอน โดย ครม.ได้ไฟเขียวเก็บภาษีคาร์บอนที่ 200 บาท/TonCO2e ในเบื้องต้น โดยเริ่มจากน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ดังนั้น การจัดการโลจิสติกส์ที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงเพิ่มต้นทุน แต่ยังบั่นทอนภาพลักษณ์ที่ลูกค้าปัจจุบันให้ความสำคัญอย่างมาก
ตัวอย่างเช่น ในประเทศไทยโครงการแม่เมาะเมืองน่าอยู่ที่จังหวัดลำปาง เปลี่ยนมาใช้รถบัสไฟฟ้า รับ-ส่งพนักงาน กฟผ. สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 1,406,804 kg CO2e ภายในสองปี และที่สำคัญคือประหยัดต้นทุนค่าน้ำมันได้ถึง 750,000 บาทต่อปี เลยทีเดียว
โอกาสของ SME ไทย เช่น โลจิสติกส์สีเขียว คือการเปลี่ยนมาใช้ EV Fleet (ยานยนต์ไฟฟ้า) ในธุรกิจขนส่งขององค์กร ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม ยังช่วยเพิ่มภาพลักษณ์สีเขียว ลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าบำรุงรักษาได้อย่างมากเมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาป
ทางลัดสู่ความยั่งยืน: เลือกพันธมิตรที่ใช่
เมื่อรู้แล้วว่าการลดคาร์บอนเป็นจุดหมาย แต่ก็ยังไม่รู้จะเริ่มต้นเส้นทางนี้ยังไงดี “พันธมิตร” ที่ใช่จะช่วยวางแผนสร้างความพร้อมให้กับธุรกิจของคุณเพื่อเพิ่มมูลค่า (Value Added) ให้กับสินค้าและบริการ
อินโนพาวเวอร์ พร้อมเป็นพันธมิตร One-Stop Service ด้าน Decarbonization ให้บริการที่ปรึกษาแบบครบวงจร ตั้งแต่การวัดคาร์บอน (GHG Report) การจัดหาใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (REC) และคาร์บอนเครดิต ไปจนถึงโซลูชั่นพลังงานสะอาดอย่างโซลาร์รูฟ สถานีอัดประจุไฟฟ้ารถยนต์ และ EV Fleet รวมถึงการวางกลยุทธ์ Net Zero อย่างมืออาชีพ
เราเข้าใจดีว่า ธุรกิจต้องการ “Sustainable Solutions” ที่ไม่เพียงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ต้องสร้างสมดุลระหว่างการลดคาร์บอนกับการลดต้นทุน และเพิ่มผลลัพธ์ไปพร้อมๆ กัน เพราะไม่มีใครอยากเสียเงินเพิ่มโดยไม่เห็นผลตอบแทนที่คุ้มค่า
นี่คือโอกาสทองที่จะเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นอาวุธลับ สร้างความได้เปรียบที่ยั่งยืนให้ธุรกิจของคุณ