การผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ เป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลในการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้โดดเด่นในเวทีโลก โดยใช้ต้นทุนทางวัฒนธรรมเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และภาคการท่องเที่ยวของไทย รวมทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มรายได้ให้กับเศรษฐกิจฐานราก เปิดโอกาสให้ชุมชนนำสินค้า หรือบริการในท้องถิ่นมาประสานเข้ากับเรื่องราวและอัตลักษณ์ในแต่ละพื้นที่มาเพิ่มมูลค่า สร้างความโดดเด่นเหนือกว่าสินค้าอื่นในท้องตลาด ซึ่งจะทำให้ท้องถิ่นทั่วประเทศเกิดความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
โดยกระทรวงอุตสาหกรรมก็ได้ขานรับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ดังกล่าว ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการเสริมสร้างศักยภาพของวิสาหกิจท้องถิ่น และเอสเอ็มอีไทย ให้นำซอฟต์พาวเวอร์มาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
ณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีดีพร้อม ให้ข้อมูลว่า แนวทางหลักในการนำซอฟต์พาวเวอร์มาสร้างรายได้เพิ่มขึ้นกับท้องถิ่น จะผลักดันผ่าน “ซอฟต์พาวเวอร์อาหาร” ซึ่งเป็น 1 ใน 5 อุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เนื่องจากในทุกพื้นที่ของไทยมีจุดเด่นด้านวัตถุดิบ และวัฒนธรรมการผลิตอาหารที่แตกต่างกัน ที่สามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาจะต้องมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น (Crop) อาหารพื้นถิ่น (Food) หัตถกรรมพื้นบ้าน (Craft) สมุนไพรประจำถิ่น (Herb) และวัสดุพื้นถิ่น (Material) ด้วยการประยุกต์ใช้ทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา นวัตกรรม และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดและพื้นที่เศรษฐกิจใหม่
รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์และการรับรู้ผ่านการสร้างแบรนด์ และนำเสนอเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับแหล่งผลิต ตลอดจนขยายโอกาสทางธุรกิจด้วยการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงอาหาร การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งจะทำให้ชุมชนเกิดการสร้างรายได้และสามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปยังเกษตรกรและผู้ผลิตรายย่อย ซึ่งจะเป็นกลไกเสริมสร้างการจ้างงานอย่างเป็นรูปธรรมและทั่วถึง ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภูมิภาค (Local Economy) ได้อย่างยั่งยืน
สำหรับพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงานนั้น จังหวัดพิษณุโลกก็เป็นหนึ่งพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น แหล่งท่องเที่ยว และธรรมชาติอันงดงาม ถูกหล่อหลอมให้เป็นรากฐานอันแข็งแกร่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สะท้อนเอกลักษณ์ของท้องถิ่นได้อย่างมีเสน่ห์และสามารถต่อยอดเป็นพลังสร้างสรรค์ในระดับสากล
โดยดีพร้อมได้นำทรัพยากรและวัตถุดิบพื้นถิ่นผนวกกับอัตลักษณ์ ภูมิปัญญา และทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถสร้างรายได้และสร้างอาชีพเสริมไปสู่อาชีพหลักให้ชุมชนได้อย่างยั่งยืน ผ่าน โครงการเสริมทักษะอาชีพ สู่ Soft Power ชุมชน ให้ดีพร้อม
ปัจจุบัน ดีพร้อมได้เข้าไปพัฒนาในพื้นที่ 2 ชุมชน ได้แก่ 1.ชุมชนอำเภอวังทอง ซึ่งได้เข้าไปอบรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร “อาหารพื้นบ้าน ทำง่าย ขายคล่อง Soft Power ไทย” ด้วยการให้ทักษะและองค์ความรู้และเครื่องมือที่จำเป็นในการยกระดับอาหารไทยผ่านการส่งเสริมการใช้อัตลักษณ์ ภูมิปัญญา และวัตถุดิบท้องถิ่นมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน อาทิ ไข่เค็ม ปลาส้ม และน้ำพริกสมุนไพร ทำให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดเป็นอาชีพและสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
2.ชุมชนอำเภอวัดโบสถ์ เป็นการอบรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร “การย้อมสีธรรมชาติจากต้นตาล พื้นฐานภูมิปัญญาพื้นถิ่น เช็คอินวิถีชุมชน” โดยมุ่งเน้นการให้ทักษะเชิงปฏิบัติในการสร้างสรรค์การย้อมสีจากวัตถุดิบพื้นถิ่นอย่างต้นตาลผสานภูมิปัญญาพื้นถิ่นให้มีความร่วมสมัย เพิ่มคุณค่า และสามารถใช้เป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจของชุมชนด้วยแนวคิดซอฟต์พาวเวอร์ที่จะสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดพิษณุโลกอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการปลุกศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แฝงอยู่ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นของชุมชนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
นอกจากนี้ ดีพร้อมยังได้ให้ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม หรือศูนย์ไอซีที ทั้ง 13 แห่ง ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เข้าไปช่วยพัฒนาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรของชุมชนในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การนำผลผลิตเกษตรไปแปรรูปให้มีมูลค่าเพิ่ม และตรงกับความต้องการของตลาด การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นสะท้อนเรื่องราวของชุมชน ชูให้สินค้ามีจุดเด่น
รวมถึงสอนการทำตลาดทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ การทำคอนเทนต์ การทำธุรกิจ การขาย การบริหารจัดการ การทำบัญชี การบริหารด้านการเงิน ไปจนถึงการสร้างแบรนด์ เพื่อให้ผลลัพธ์สุดท้ายสินค้าขายได้ มีกำไร เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และช่วยดึงดูดการท่องเที่ยว ซึ่งดีพร้อมจะติดตามและวัดผลอย่างสม่ำเสมอ ให้รู้ว่ารายได้ของพื้นที่โดยรวมเพิ่มขึ้นเท่าไร
“ในปี 2568 ดีพร้อมจะเดินหน้าขยายโครงการพัฒนาชุมชนออกไป ตั้งเป้าที่จะพัฒนาผู้ประกอบการชุมชนให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3 พันราย จาก 3 พันหมู่บ้าน” ณัฏฐิญาระบุ
จากแนวทางที่กล่าวมาขั้นต้น ดีพร้อมมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ-เอกชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงกระตุ้นให้เกิดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจชุมชนและเกิดกระจายรายได้อย่างทั่วถึง
เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูงในอนาคต