นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ.ได้ประสานไปยังผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ ให้ส่งบุคลากรผู้เชี่ยวชาญของแต่ละค่ายมาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตแบตเตอรี่สำหรับใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการกำหนดมาตรฐานแบตเตอรี่สำหรับรถอีวีในอนาคต คาด สมอ. จะสามารถพิจารณาอนุญาตมาตรฐานผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่รถยนต์อีวีให้มีผลบังคับใช้ได้ภายในปีนี้ 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ จำนวน 40-50 มาตรฐาน ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานผู้ผลิตรถยนต์ประมาณ 5 ราย ได้แก่ ญี่ปุ่น 2 ราย ยุโรป 2 ราย และจีน 1 ราย เข้ามาพูดคุยในรายละเอียดกับสมอ.เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดในการกำหนดมาตรฐานการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์อีวีของประเทศ โดยต้องคำนึงถึงการคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคเป็นหลัก ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายว่าต้องไม่อิงมาตรฐานหรือเกณฑ์ของค่ายใดค่ายหนึ่ง
นายพิสิฐกล่าวว่า สมอ.ยังอยู่ระหว่างจัดทำมาตรฐานหัวชาร์จที่ครอบคลุมรถยนต์อีวีของทุกค่ายจากทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานของจีน ญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งสถานีชาร์จแต่ละแห่งควรรองรับบริการรถทุกค่ายอยู่แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวก แต่การลงทุนหัวชาร์จแต่ละยี่ห้อแตกต่างกัน หากทุกสถานีติดตั้งหัวชาร์จของทุกค่ายก็ต้องมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหัวชาร์จละ 20%
“คาดว่า สมอ. จะประกาศใช้มาตรฐานสถานีชาร์จได้ก่อนแบตเตอรี่ เพราะสถานีชาร์จมีข้อมูลกำหนดมาตรฐานอยู่พอสมควร ประกอบกับมีกาาจัดตั้งบางสถานีแล้ว คาดจะทยอยหารือตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนจนถึงเดือนพฤษภาคมนี้ ล่าสุดมีผู้ผลิตรถยนต์หลายรายแสดงความสนใจและพูดคุยกันไปบ้างแล้วอย่างไม่เป็นทางการ”นายพิสิฐกล่าว
นายพิสิฐ กล่าวว่า ปีนี้ สมอ. ตั้งเป้าหมายจัดทำมาตรฐานอุตสาหกรรมให้ได้ 305 เรื่องตามแผนแม่บทการกำหนดมาตรฐาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายที่คาดจะประกาศใช้มาตรฐาน 150 เรื่อง ซึ่งในช่วง 6 เดือนของปีงบประมาณประจำปี 2560 (ตุลาคม 2559-มีนาคม 2560) สมอ.ประกาศใช้มาตรฐานในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายแล้ว 103 มาตรฐาน คิดเป็น 68.6% อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ 8 มาตรฐาน ยานยนต์สมัยใหม่ 3 ผลิตภัณฑ์ 1 มาตรฐาน เคมีภัณฑ์ 35 มาตรฐาน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 20 มาตรฐาน และหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม 4 มาตรฐาน
