ธ.ออมสินชี้แจงกรณีกท.ศึกษาฯจี้คืนเงิน 9.6 พันล้าน ยันไม่ได้ทำนิติกรรมฝ่ายเดียว

ธนาคารออมสินชี้แจงการหักเงินสนับสนุนจากบัญชีเงินฝากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เพื่อชำระหนี้เงินกู้กรณีสมาชิกค้างชำระหนี้เงินกู้ ช.พ.ค. จำนวน 9.6 พันล้านบาท เป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันกับ สกสค. มิได้เป็นการทำนิติกรรมฯ ฝ่ายเดียวแต่อย่างใด

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีข่าวกระทรวงศึกษาธิการจี้ให้ธนาคารออมสินคืนเงิน 9.6 พันล้านบาท เข้ากองทุนเงินสนับสนุนพิเศษ โดยกล่าวอ้างว่าการทำหนังสือให้หักเงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษไม่ถูกต้อง นั้น

ธนาคารออมสินขอชี้แจงว่า โครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) โดยจัดหาแหล่งเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และทั้งสองหน่วยงานได้ทำข้อตกลงตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งข้อตกลงมีการกำหนดหน้าที่ของ สกสค. ให้เป็นผู้ประสานและดำเนินการให้มีการหักเงินเดือนหรือเงินได้อื่นที่ผู้กู้และหรือผู้ค้ำประกันได้รับ เพื่อชำระหนี้ให้ธนาคารอย่างต่อเนื่อง ครบถ้วน และธนาคารจะจ่ายเงินสนับสนุนพิเศษให้ สกสค.จากดอกเบี้ยที่ได้รับ ในอัตราและระยะเวลาที่กำหนดร่วมกัน ซึ่งการหักเงินสนับสนุนพิเศษเพื่อชำระหนี้ค้าง 3 เดือนขึ้นไป ธนาคารและ สกสค. ได้ถือปฏิบัติมาตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน โดยตั้งแต่ปี 2549 – 2559 ธนาคารจ่ายเงินสนับสนุนให้ สกสค. เป็นเงิน 18,525 ล้านบาท และ สกสค.ได้รับเงินสุทธิหลังหักหนี้ค้างชำระ 3 เดือนแล้ว 8,925 ล้านบาท สำหรับลูกหนี้ ที่ สกสค.ชำระหนี้แทน 9,600 ล้านบาท ธนาคารได้ส่งรายชื่อแจ้งให้ สกสค.ทราบทุกเดือน และได้ร่วมกันติดตามและดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งผู้กู้ส่วนหนึ่งได้นำเงินมาชำระคืนให้กับ สกสค. แล้ว ทั้งชำระเงินโดยตรงกับ สกสค. หรือนำเงินคืนเข้าบัญชี สกสค. ที่เปิดไว้กับธนาคาร ที่ผ่านมาเมื่อมีปัญหาหรือข้อขัดข้องในการดำเนินงานตามโครงการ ธนาคารและ สกสค. จะประชุมหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงตามที่ได้กำหนดไว้ในบันทึกข้อตกลงเสมอ

สำหรับการกล่าวถึงการทำนิติกรรมฝ่ายเดียวดังกล่าวข้างต้น เป็นเพียงการทำหนังสือยินยอมให้หักเงินจากบัญชีเงินฝากเพื่อชำระหนี้ตามขั้นตอนการปฏิบัติงานปกติของธนาคาร ซึ่งลงนามโดยผู้มีอำนาจกระทำการแทนตามกฎหมาย คือ เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. ในขณะนั้น และเพื่อให้สมาชิก สกสค. และประชาชนทั่วไปทราบถึงที่มาที่ไปและเข้าใจในข้อเท็จจริงในสิ่งที่ธนาคารออมสินได้ถือปฏิบัติตามข้อตกลงฯ ธนาคารจึงขอชี้แจงให้ทราบมา ณ โอกาสนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image