นายฮิเดโทชิ อุเมกิ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษา ศูนย์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แห่งมหานครโตเกียว กล่าวในนงานเสวนาเรื่อง “อุตสาหกรรมอาหารในยุคไทยแลนด์ 4.0” ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ว่า ตลาดอาหารที่ญี่ปุ่นมีมูลค่าประมาณ 30 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการส่งออกไทย เพราะญี่ปุ่นมองไทยเป็นพันธมิตรอยู่แล้ว ไทยมีทรัพยากรที่ได้เปรียบหลายประเทศ ขณะนี้มีผู้ประกอบการญี่ปุ่นร่วมกับไทยแปรรูปอาหารเพื่อส่งออกไปทั้งในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา โดยตลาดอาหารญี่ปุ่นให้ความสำคัญมากเป็นอันดับ 1 คือเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ดังนั้นผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกอาหารไปยังประเทศญี่ปุ่นควรศึกษามาตรฐานและความต้องการของตลาดว่าเป็นอย่างไร
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ วี ฟู้ดส์ กล่าวว่า โมเดลสมัยใหม่ของการทำธุรกิจเกษตรอาหาร คือการต่อยอดธุรกิจ ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ ให้แตกต่างจากเดิมที่เน้นเพียงส่งออกหรือขายวัตถุดิบ ซึ่งไม่ได้ใส่การเพิ่มมูลค่าเพิ่ม ยกตัวอย่างคนไทยกล้าจ่ายสินค้าของญี่ปุ่น เพราะมีการทำการตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มได้ดี ขณะเดียวกันผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีควรพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารของไทยให้ตรงกับความนิยมและแนวโน้ม(เทรนด์)ที่ผู้บริโภคต้องการในอนาคต เช่น เทรนด์รักษ์สุขภาพ ยกตัวอย่างเดิมไทยนิยมดื่มกาแฟเติมน้ำตาลและนม แต่ปัจจุบันนิยมกาแฟดำและใส่น้ำตาลน้อย
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า เอสเอ็มอียังมีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและแนวโน้มของตลาด เบื้องต้นเอสเอ็มอีจะต้องสร้างสินค้าให้มีความแตกต่างจากพื้นฐานที่ตัวเองมี เช่น ทำอุตสาหกรรมเกษตร ก็ปลูกข้าวโพดเป็นสายพันธุ์ของตัวเอง ด้วยการร่วมมือกับนักวิจัยและเกษตรกร
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า คาดการณ์ว่าในปี 2560 การส่งออกอาหารสำเร็จรูปของไทยในแง่ปริมาณจะยังขยายตัวเฉลี่ยได้ 5% จากปี 2559 หรือมีปริมาณส่งออกถึง 3 ล้านตัน ขณะที่มูลค่าก็คาดหวังว่าจะขยายตัวได้ 5% หรือมีมูลค่า2.1 แสนล้านบาทเช่นกัน หากค่าเงินบาทไม่แข็งเกินไปแข่งขันได้ ประกอบกับราคาน้ำมันมีแนวโน้มขาขึ้น ประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีกำลังซื้อดีขึ้นมาทดแทนตลาดอื่นๆ ขณะนี้ตลาดเอเชียรวมถึงอาเซียนยังดี ตลาดสหรัฐก็อยู่ตัว ตลาดตะวันออกกลางก็อยู่ตัว ตลาดออสเตรเลียไม่แย่ แต่ตลาดสหภาพยุโรปไม่ค่อยดีนัก
