“อคส.”คุมเข้มขนย้ายข้าว5แสนตันจากคลังรัฐกันเล็ดลอดระหว่างทาง

พลตำรวจโทไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ได้เชิญผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลข้าวสารในสต็อคของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ (อุตสาหกรรมพลังงาน) ครั้งที่ 1/2560 จำนวน 10 ราย และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กรมวิชาการเกษตร กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อวางมาตรการในการควบคุมในการขนย้ายข้าวออกจากคลังสินค้าต้นทางไปยังคลังสินค้าปลายทาง เพื่อป้องกันการรั่วไหลสู่ตลาดปกติ ก่อนลงนามในสัญญา และลงพื้นที่ตรวจสอบคลังสินค้าปลายทางต่อไป

พลตำรวจโทไกรบุญ กล่าวว่า ได้กำหนดขั้นตอนและมาตรการในการควบคุมการขนย้ายข้าวออกจากคลังสินค้าต้นทางไปจนถึงคลังสินค้าปลายทางที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมของผู้ชนะการประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐจำนวน 53 คลัง ใน 19 จังหวัด ปริมาณรวม 500,389 ตัน มูลค่า 1,020,715,811 ล้านบาท ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศ เปิดประมูลเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมานั้น จากนี้ อคส.และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อม ก่อนลงนามในสัญญา สำหรับคลังสินค้าที่ปลายทาง จะต้องติดตั้งกล้อง CCTV และต้องรายงานข้อมูลสินค้า ผ่านเว็บไซต์ อคส. ที่www.pwo.co.th เพื่อรายงานให้เจ้าหน้าที่ อคส.รับทราบ และเมื่อขนย้ายข้าวถึงสถานที่ปลายทางแล้ว อคส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสุ่มตรวจปริมาณข้าว อีกครั้งว่าตรงตามปริมาณการขนย้ายหรือไม่

“หาก อคส.ตรวจพบว่าผู้ซื้อไม่นำเข้าสารเข้าสู่กระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมตามที่ได้แจ้งไว้ในวัตถุประสงค์ที่ขอซื้อจะต้องชำระค่าปรับ 25% ของมูลค่าข้าวสารที่ไม่ได้นำเข้าสู่กระบวนการอุตสาหกรรม และหาก อคส.เลิกสัญญา ผู้ซื้อจะต้องเสียค่าปรับ 25% ของมูลค่าปริมาณข้าวสารที่ยังไม่ได้รับมอบและขนย้าย รวมทั้งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งทางแพ่งและอาญาด้วย มั่นใจว่าขั้นตอนและมาตรการการควบคุม สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้”พลตำรวจโทไกรบุญกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image