ธ.กรุงเทพ เผยเอกชนรุมลงทุนฟินเทคระบบชำระเงิน-จัดการลงทุนของแบงก์ แนะเป็นเรื่องใกล้ตัว เปิดใจเรียนรู้

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนา “ก้าวที่ 40 มติชน ก้าวคู่ประเทศไทย 4.0” หัวข้อ “ฟินเทค นวัตกรรมการเงินเรื่องใกล้ตัวที่ต้องรู้” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่าในฐานะนายธนาคาร มองว่าจุดร่วมของฟินเทคไม่ว่ามองจากมุมผู้เล่นเก่า อย่างธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ หรือผู้เล่นใหม่อย่าง สตาร์ตอัพ คือ เทคโนโลยี โดยผู้เล่นเก่าใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในธุรกิจ หรือผู้เล่นใหม่ ก็ใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนามการเงิน แต่สุดท้ายแล้วหัวใจสำคัญคือเทคโนโลยี ธนาคารพาณิชย์เองก็หายใจเข้าออกเกี่ยวกับเทคโนโลยีมานาน

นายทวีลาภกล่าวว่า ในแต่ละช่วง 10 ปี มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น ในช่วง่ปี 2503 มีเซมิคอนดัคเตอร์เกิดขึ้น ทำให้มีบัตรเครดิต 10 ปีต่อมามีการเปลี่ยนมาใช้เป็นเมนเฟรม ทำให้ระบบโอนเงินสะดวกขึ้น และ 10 ปีถัดมาเกิดตู้กดเงินเอทีเอ็ม แต่วันนี้เอทีเอ็มก็ใกล้หมดไป ที่เป็นบิ๊กแบง (จุดระเบิดที่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยน) จริงๆ คือ อินเตอร์เน็ต ทำให้ธุรกิจขยายตัวมาก ผสานการเกิดขึ้นของสมาร์ทโฟนยิ่งทำให้เข้าถึงกระบวนการต่างๆ ง่ายขึ้น ตอนนี้เราอยู่ในช่วง 10 ปีที่สำคัญ เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ มีสมาร์ทโฟน ทำให้เกิดพลังการรับรู้ได้มหาศาล เช่น การใช้เทคโนโลยีพิสูจน์ตัวตนทางชีวภาพ (ไบโอเมตริก) ลายนิ้วมือ ม่านตา หรือมีระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง ซึ่งล้วนผลักดันให้ฟินเทคแตกตัวและขยายตัวได้อย่างน่าทึ่ง ตัวบล็อกเชนจะเป็นเทคโนโลยีอันหนึ่งที่จะทำให้เกิดผลกระทบมหาศาลกับหลายธุรกิจ นับว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งและใกล้ตัวเรา ขอให้เปิดใจยอมรับและเรียนรู้มัน เช่น พร้อมเพย์ ที่กำลังเกิดขึ้น

“ขณะนี้มีผู้ลงทุนใหม่ๆ สนใจลงทุนอะไรในธนาคารพาณิชย์บ้างนั้น ในส่วนธรุกิจให้สินเชื่อ ดูแลบัญชีต่างๆ เงินฝาก กำไรไม่สูงนัก ธุรกิจการเก็บค่าธรรมเนียม บริการธุรกรรมต่างๆ กำไรก็ไม่ได้สูงมากนัก แต่ที่เป็นที่น่าสนใจของธุรกิจธนาคารพาณิชย์อีกด้าน คือ ระบบชำระเงิน การบริหารจัดการทรัพย์สินเเละจัดการการลงทุน มีรายได้สูง จึงเป็นสิ่งที่ธุรกิจฟินเทคมองตาเป็นมัน เข้ามาเล่นในกลุ่มธุรกิจหลังนี้ของธนาคารกันมากขึ้น” นายทวีลาภกล่าว

Advertisement

นายทวีลาภกล่าวอีกว่า แนวโน้มการให้บริการของธนาคาร ในปี 2563 ลูกค้ามีความคาดหวังมากขึ้น ต้องการความรวดเร็ว และต้องน่าเชื่อถือและไว้วางใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ทิ้งไม่ได้ และธนาคารจะมองลูกค้าเป็นหลัก เป็นจุดศูนย์กลาง โดยให้ความสำคัญกับช่องทางบริการต่างๆ ไม่ลืมความต้องการลูกค้า เช่น มีอวยพรวันเกิดลูกค้า และให้โปรโมชั่นต่างๆ พร้อมกัน ขณะเดียวกันธนาคารจะออกผลิตภัณฑ์อะไรก็จะคำนึงถึงโครงสร้างทางสังคม เช่น กลุ่มอายุ เพศ ด้วย

Advertisement

นายทวีลาภกล่าวว่า โชเชียลมีเดียวันนี้เป็นช่องทางสื่อสารหลักในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ไปแล้ว ซึ่งก็ต้องมีความน่าเชื่อถือ วันนี้เราคุ้นชินกับเทคโนโลยีและคิดว่าทุกอย่างจะไม่มีปัญหา จุดนี้ธนาคารต้องคิดรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นด้วย เหล่านี้เป็นภาพที่เกิดขึ้นในโลกและไทย

นายทวีลาภกล่าวว่า สำหรับลูกค้าบุคคล เทคโนโลยีเป็นเรื่องใกล้ตัว ต้องเปิดใจเรียนรู้มัน การจัดการชีวิตจะดีขึ้น มีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้น ความปลอดภัยก็เรื่องสำคัญ เริ่มที่ตัวเราเอง ส่วนลูกค้าธุรกิจวันนี้หากไม่ปรับตัวแข่งขันไม่ได้ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี แต่หลายคนที่ยังไม่เข้าระบบกังวลว่ารัฐบาลจะเก็บภาษี นึกภาพว่าจะทำการค้าให้ได้นานในสภาพที่รัฐบาล และทุกคนใช้จ่ายเป็นอิเล็กทรอนิกส์ก็ต้องเปิดใจที่จะปรับเปลี่ยน ธนาคารกรุงเทพเองกำลังทำระบบหลังบ้าน ใช้บิ๊กดาต้า วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า แนะนำโปรโมชั่น ร่วมกับพันธมิตรระดับโลกศึกษาบล็อกเชน จัดประกวดสตาร์ตอัพ ลงทุนในสตาร์ตอัพและเทคโนโลยีใหม่ๆ จึงนำเทคโนโลยีมาพัฒนาการให้บริการ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเหล่านี้เดินหน้าทำต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image