นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา “ก้าวที่ 40 มติชน ก้าวคู่ประเทศไทย 4.0” หัวข้อ “ฟินเทค นวัตกรรมการเงินเรื่องใกล้ตัวที่ต้องรู้” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดโดยบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ว่า จุดสำคัญของฟินเทค ที่ทางธนาคารเสนอให้ประชาชนได้ใช้งานนั้น สิ่งสำคัญคือใช้แล้วต้องมีความมั่นคงและไม่เกิดปัญหาในอนาคต โดยธนาคารแห่งประเทศไทยก็เป็นผู้กำกับดูแลเรื่องฟินเทคอยู่แล้ว ขณะเดียวกันตอนนี้เทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นรวดเร็วและหยุดไม่ได้ หากหยุดจะล้าหลัง คนอยู่ข้างหลังต้องพัฒนาต่อไป แม้ว่าฟินเทคเป็นคำที่เท่ดี แต่มีผู้ประกอบการประสบความสำเร็จฟินเทคเพียง 20% แต่ก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีคนลงทุนใหม่ๆ คนรุ่นใหมเข้ามาพัฒนา จะทำให้ฟินเทคเกิดเร็วขึ้นและท้ายที่สุดประชาชนได้ประโยชน์
“ตัวฟินเทคเราพร้อมสนับสนุน ขอให้ (ผู้เกี่ยวข้อง) บอกมาว่าติดขัดอะไร ซึ่งปกติก็จะหารือกับภาคธนาคารและผู้กำกับดูแล คือ ธปท. อยู่แล้ว ในส่วนเรกูลาทอรี่ แซนด์บล็อกซ์ (ศูนย์ทดสอบนวัตกรรมทางการเงิน) ซึ่ง ธปท.เปิดให้เข้าไปทดลงใช้งานอยู่ ก็กำลังดูว่ามีจุดอ่อนตรงไหน หากจุดอ่อนไม่มี ก็จะนำมาใช้งาน” นายอภิศักดิ์กล่าว และว่า ส่วนบิตคอยน์ เป็นสกุลเงินใหม่ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งเป็นการชำระเงินทางอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันมีมากขึ้นเรื่อยๆ มีบางประเทศก็ยอมรับ แต่ประเทศไทยยังไม่เปิดยอมรับ มีประเทศใหญ่ๆ คิดว่าบิตคอยน์เกิดขึ้นได้ จะมีสกุลเงินดิจิทัลของประเทศตัวเองได้หรือไม่ ตอนนี้ไม่มีอะไรถูกหรือผิด รอดูพัฒนาการอะไรที่จะเป็นประโยชน์ การจะมีสกุลเงินหนึ่งๆ ของประเทศ มีข้อดีคือส่งเสริมการค้าขาย แต่ก็ยังมีปัญหาว่าจะดูแลให้ครอบคลุม รวมทั้งดูแลปริมาณอย่างไร
นายอภิศักดิ์กล่าวถึงกรณีล่าสุดบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบี/อี ว่า ตั๋วบี/อี เป็นสิ่งที่บริษัทออกมาและขายให้ประชาชน ซึ่งเป็นรายใหญ่ โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีแนวคิดว่าถ้าเป็นประชาชนรายใหญ่มาซื้อ ก็ต้องมีความรู้ในการลงทุน สามารถวิเคราะห์ พิจารณาถึงบริษัทว่าเป็นอย่างไร และมีบทวิเคราะห์าทางการเงินออกมาว่าเป็นอย่างไร ยิ่งดอกเบี้ยสูง ก็มีความเสี่ยงสูง จึงต้องตัดสินใจเอง ในส่วนธนาคารปกติที่มีการให้กู้เงิน ก็มีหนี้เสียที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่แล้ว ตอนนี้ระบบของธนาคารไม่น่าเป็นห่วง แต่ละธนาคารมีการกันสำรองเกิน 100% ส่วน ก.ล.ต.เอง ก็มีกฎระเบียบดูแลอยู่แล้ว ที่จะกำกับดูแลเรื่องตั๋วบี/อีให้ดี ไม่ให้เกิดปัญหา สำหรับปัญหาตั๋วบี/อีที่เกิดขึ้น 2-3 เดือนที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้นั้น ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่กรณีแบบเดียวกันนี้มีมาก่อนหลายปีแล้ว
นายอภิศักดิ์กล่าวถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีแนวคิดจะยกเว้นการเก็บภาษีบ้านหลังแรกที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท นั้นว่า ความจริงบ้านเป็นที่อยู่อาศัย ในปัจจัย 4 ก็ไม่อยากจะเก็บภาษี แต่มีคนทักท้วงว่าคนรวยจะทำอย่างไร จึงมีแนวคิดยกเว้นบ้านหลังแรกที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ในสมัยนายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีแนวคิดจะจัดเก็บภาษีบ้านที่มีมูลค่าเกิน 10-20 ล้านบาท ก็มีคนทักท้วงว่าจะเก็บทำไม เพราะเสียภาษีรายได้อยู่แล้วและต้องจ่ายค่าบ้านด้วย ในส่วน สนช.ไม่รู้ข้อมูลตรงนี้ อย่างไรก็ตามขึ้นกับ สนช.ว่าจะพิจารณาฐานเสียภาษีบ้านอย่างไร กระทรวงการคลังก็พยายามชี้แจงหลักการให้ฟัง
