นายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซุปเปอร์ริช อินเตอร์เนชั่นเนล เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด หรือ เอสพีอาร์ ซุปเปอร์ริช เปิดเผยว่า บริษัทจะพัฒนามาตรฐานการบริการที่เป็นสากลและจะรุกทำการตลาดมากขึ้น โดยได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้ของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ และมีแผนจะขยายสาขาใหม่ 10 สาขา ทั้งในย่านธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า ในกรุงเทพฯและปริมณฑล และจังหวัดตามแนวชายแดนรอรับเออีซี อาทิ หนองคาย มุกดาหาร อุบลราชธานี เป็นต้น จากปัจจุบันสาขา 34 สาขา คาดว่าสิ้นปีจะมีสาขารวม 44 สาขา รวมทั้งจำมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ด้านการบริการมาให้บริการแก่ลูกค้าเพื่อสร้างความสะดวก เช่น บริการจองเงินผ่านระบบออนไลน์และคอลเซ็นเตอร์ โดยสามารถไปรับเงินสาขาที่สะดวก และในอนาคตมีแผนจะพัฒนาตู้แลกเงินอัตโนมัติด้วย นอกจากนี้ จะมีการต่อยอดจากธุรกิจรับแลกเงิน เป็นบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่าง ๆ สินค้าและของที่ระลึก เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้อีกทางหนึ่ง
นายปิยะกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเลือกที่ปรึกษาทางการเงิน(เอฟเอ) โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ ในอีก 3 ปีข้างหน้าหรือปี 2561 เพื่อต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างชาติและระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจในอนาคต ทั้งนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมธุรกิจ 1 ราย โดยเป็นพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนและด้านเทคโนโลยี ซึ่งจะเข้ามาเสริมศักยภาพให้บริษัท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ
“ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศยังมีแนวโน้มการเติบโตดี ตามการเติบโตของภาคท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งการท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งกลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในไทยจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) สำหรับ ปี 2559 บริษัทจึงตั้งเป้าหมายการเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% จากปี 2558 ที่มีมูลค่าการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 1.25 หมื่นล้านบาท เติบโต 10% จากปี 2557 ที่มีมูลค่า 1.10 หมื่นล้านบาท” นายปิยะกล่าว
