สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 มี.ค.) ดัชนีปรับลดลง หลังจากราคาน้ำมันปรับลดลง 3.7% ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย นอกจากนี้ รายงานตัวเลขยอดส่งออกของจีนในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ลดลงกว่า 20% ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาด ทำให้นักลงทุนกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกตามมา
หลังปิดตลาด ดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 16,964.10 จุด ลบ 109.85 จุด หรือ -0.64% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ระดับ 4,648.82 จุด ลบ 59.43 จุด หรือ -1.26% และดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 1,979.26 จุดลบ 22.50 จุด หรือ -1.12%
ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก ส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ไปปิดตลาดที่ระดับ 36.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีการคาดการณ์ว่า สต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดตลาดที่ระดับ 39.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก (COMEX) ส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลงเล็กน้อยแค่ 1.10 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดตลาดที่ระดับ 1,262.90 ดอลลาร์/ออนซ์
