สมอ.ชี้แจงกรณีครม.ตีกลับ สร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์ ยันเคลียร์ป่าไม้แล้ว

นายณัฐพล รังสิตพล รองเลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยถึงกรณีคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไม่อนุมัติโครงการก่อสร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ และส่งเรื่องกลับมาให้ สมอ. ทบทวนใหม่ เนื่องจากติดปัญหาในเรื่องที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้ภาคเอกชนไม่สามารถเข้าร่วมโครงการลงทุน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) ได้ นั้น สมอ. จะพิจารณารายละเอียดของมติ ครม.ก่อน จึงจะชัดเจนในการดำเนินการต่อไป แต่ยืนยันว่ากรณีที่ดิน สมอ.ได้ทำเรื่องขอเช่าที่ดินป่าเสื่อมโทรม และที่ดินขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ที่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 1.2 พันไร่แล้ว และกรมป่าไม้ ก็เห็นชอบกับโครงการ อนุมัติให้กระทรวงอุตสาหกรรม เช่าพื้นที่ระยะยาว 30 ปี และการชดเชยปลูกป่า วงเงินรวม 156.8 ล้านบาท รวมทั้ง มีมติให้ต่ออายุการเช่าออกไปได้อีก เพราะเป็นหน่วยงานรัฐ ดังนั้นตามขั้นตอน คือ ขออนุมัติงบประมาณจากครม. เพื่อนำเงินก้อนนี้ไปชำระให้กับกรมป่าไม้ และอ.อ.ป. ก็สามารถเข้าใช้พื้นที่ได้ทันที ส่วนกรณีได้รับงบประมาณมาแล้วกว่า 100 ล้านบาทนั้น สมอ.ได้คืนงบดังกล่าวไปตั้งแต่ต้นแล้ว

นายณัฐพล กล่าวว่าสำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ รวม 4.5 พันล้านบาท ตามแผนจะใช้วงเงิน 3.7 พันล้านบาท จำนวนนี้ จะมีการขอใช้งบประมาณกลางปี 2559 เบื้องต้น 233.3 ล้านบาท แบ่งเป็นการชำระเพื่อชดเชยพื้นที่ของกรมป่าไม้ 1,200 ไร่ มูลค่า 156.8 ล้านบาท และการจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และการออกแบบ 76.5 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณจะแบ่งจ่ายระยะ 5 ปี ตามแผนการลงทุนของโครงการ (มาสเตอร์แพลน) หากรัฐบาลอนุมัติให้ใช้งบประมาณกลางของปีนี้ได้ จะสามารถเริ่มต้นสร้างได้ทันที และจะแล้วเสร็จในปี 2563 ส่วนการลงทุนร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) จะเสนอทางเลือกให้ ครม.พิจารณาแนวทางการลงทุน มูลค่า 800 ล้านบาท

สำหรับการทดสอบยางล้อชนิดอื่นที่ยังไม่มีมาตรฐานบังคับ และไม่เร่งด่วน อาทิ ล้อรถไถ ล้อเครื่องบิน ซึ่งโครงการพีพีพีกับเอกชนในโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์ฯนี้ จะอยู่ในช่วงท้ายๆของโครงการ และขณะนี้ยังไม่มีภาคเอกชนตอบรับเข้าร่วมโครงการ แต่หากเอกชนกังวลในเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน สามารถเข้ามาร่วมลงทุนในส่วนอื่นได้ อาทิ เครื่องจักร และส่วนอื่นๆที่ไม่ใช่ที่ดิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image