สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 มี.ค.) ปรับลดลงเล็กน้อย แต่การซื้อขายก็เป็นไปอย่างผันผวน หลังตลาดขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมวานนี้ ด้วยการลดดอกเบี้ยเงินกู้จาก 0.05% เป็น 0% ปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากจาก -0.3% เป็น -0.4% และยังได้ประกาศเพิ่มมาตรการคิวอี ซึ่งเป็นมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จาก 60 พันล้าน เป็น 80 พันล้านยูโรต่อเดือน
หลังปิดตลาดดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 16,995.13 จุด ลบ 5.23 จุด หรือ -0.03% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ระดับ 4,662.16 จุด ลบ 12.22 จุด หรือ -0.26% และดัชนี เอสแอนด์พี500 ปิดที่ระดับ 1,989.57 จุด บวก 0.31 จุด หรือ +0.02%
ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับลดลง 45 เซนต์ หรือ 1.2% ไปปิดตลาดที่ระดับ 37.84 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีข่าวยกเลิกการประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 20 มี.ค.นี้ ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับลดลง 1.02 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ไปปิดตลาดที่ระดับ 40.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก( COMEX) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 15.40 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดตลาดที่ระดับ 1,272.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้นักลงทุนหันเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปรับลดลง
