“เดอะมอลล์”ทุ่ม 200 ล้านอัดแคมเปญดันยอดขายท้ายปี ตุนงบกว่า 1 พันล้านลุยทำตลาดปีหน้า

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้าย (พฤศจิกายน-ธันวาคม) ปีนี้ บริษัทและพันธมิตรธุรกิจ เช่น ธนาคาร บัตรเครดิต ใช้งบประมาณการตลาดรวม 200 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 25% จัดแคมเปญทางการตลาดรับช่วงเทศกาลส่งท้ายปีภายใต้ชื่อ The Mall Shopping Center Joy of Giving แบ่งเป็นใช้งบ 150 ล้านบาท จัดกิจกรรมทางการตลาด และจัดโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้าภายในห้าง เช่น จัดลานนิทรรศการศิลปะตอนรับปีจอ 2561 นำผลงานศิลปะของศิลปินชื่อดังจัดแสดง มีของรางวัลที่แจกรวมมูลค่า 4.5 ล้านบาทเมื่อมาช้อปปิ้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 – 7 มกราคม 2561

นางสาววรลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนงบอีก 50 ล้านบาท ปรับปรุงระบบบิ๊กดาต้าของ M การ์ด และเพิ่งเปิดตัวแอพพลิเคชั่น M Card ที่ใช้แทน M การ์ดปกติได้และมีความพิเศษ คือ รวมทุกโปรโมชั่นเด่นของแบรนด์และร้านต่างๆ ประมวลข้อมูลการใช้จ่าย และนำเสนอโปรโมชั่นที่เหมาะกับลักษณะลูกค้าแต่ละคนได้อย่างเรียลไทม์ ตั้งเป้าปลายปี 2561 มีคนดาวน์โหลด 5 แสนคน จากปัจจุบันใช้แล้ว 1 แสนคน จากฐานลูกค้าเดิม M การ์ดที่มีอยู่ 3.8 ล้านคน คาดว่าแอพฯ M Card จะทำให้ยอดขายร้านค้าในช่วง 2-3 เดือนนี้เพิ่มขึ้น 10% และคาดว่าหากรวมแคมเปญทางการตลาดทุกอย่างที่จัดช่วงปลายปีนี้จะทำให้ภาพรวมยอดขายเพิ่มขึ้น 10-15% และส่งผลให้ทั้งปีนี้มียอดคนเข้าห้างเพิ่มขึ้นประมาณ 6-7% จากปีที่ผ่านมามีเฉลี่ยประมาณ 1.5-2.1 ล้านคนต่อเดือน ตามขนาดของสาขา

“ในปีหน้าทั้งปีคาดว่าจะใช้งบประมาณทางการตลาดราว 1 พันกว่าล้านบาท ใกล้เคียงปีนี้ โดยเน้นที่การให้ประสบการณ์ ซึ่งถือเป็นสินค้าตัวหนึ่งกับลูกค้า โดยเฉพาะบริการที่ประทับใจ ให้ห้างเป็นมากกว่าที่ช้อปปิ้ง เป็นสถานที่อยู่ลำดับที่ 3 นอกจากบ้านและที่ทำงาน ด้วยกลยุทธ์ทำห้างเป็นศูนย์กลางสิ่งอำนวยความสะดวก ให้ความสำคัญกับชุมชนที่ห้างตั้งอยู่เติบโตไปพร้อมกัน นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยอำนวยความสะดวก เข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มากขึ้น ตอกย้ำความเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารการกิน และเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรม และนิทรรศการ”

นางสาววรลักษณ์ กล่าวว่า ภาพรวมการจับจ่ายสินค้าในช่วงปลายปีนี้เริ่มคึกคักมากขึ้น จากมาตรการช้อปช่วยชาติ ซึ่งทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 10% และส่วนใหญ่จะเห็นลูกค้าที่มีรายได้ 3-4 หมื่นบาทต่อเดือนมาช้อปปิ้งตามมาตรการนี้ ประกอบกับทั้งห้าง ร้านค้า และผู้ประกอบการมีโปรโมชั่น เปิดตัวสินค้าใหม่ๆ กันมาก ภาพรวมธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตในทิศทางดีขึ้น เชื่อว่าการจับจ่ายจะคึกคักอย่างมาก ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันมีไลฟ์สไตล์เปลี่ยนแปลงไป มีความถี่ในการมาช้อปปิ้งมากขึ้น แต่จำนวนเงินในการจับจ่ายแต่ละครั้งน้อยลง อาจด้วยผู้บริโภคเดินเข้าห้างมาร่วมอีเว้นท์ต่างๆ ที่จัดมากขึ้น และแม้จะใช้จ่ายต่อครั้งน้อย แต่ก็ซื้อบ่อยๆ ทดแทน ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าตุนทีละมากๆ เหมือนอดีต เพราะเข้าถึงและซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น ปัจจุบันเฉลี่ยคนใช้เวลาในห้างประมาณ 1.15 ชั่วโมงต่อครั้ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image