เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้แถลงมอบหมายนโยบายการดำเนินงานแก่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายสมคิด กล่าวว่า ตนมองว่า นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวฯ มีความเข้าใจในเนื้อหางานอยู่แล้ว ซึ่งการท่องเที่ยวนั้นไม่ใช่อุตสาหกรรมเล็กๆ จาก 20 เปอร์เซ็นต์ ของจีดีพี ไม่ใช่ตัวเลขที่น้อย ทุกคนรู้ดีว่าเมืองไทยมีความโดดเด่นเรื่องท่องเที่ยว มีอาหารอร่อย ผู้คนสุภาพ ถึงแม้จะมีสิ่งที่บกพร่องอยู่ แต่ภาพรวมผมถือว่าเหนือกว่าที่อื่นมาก ประเด็นคือเราต้องขยายผลการท่องเที่ยวให้ออกดอกออกผลไปสู่ทุกคน ตามนโยบายลดการเหลื่อมล้ำด้วยการท่องเที่ยวของนายวีระศักดิ์
“ผมยกตัวอย่าง มีนักท่องเที่ยว 34 ล้านคน แต่ไปกระจุกที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ตจนแทบระเบิด ไม่มีการกระจายรายได้ ที่จริงเราจะปล่อยไปตามกลไกธรรมชาติให้รายได้ค่อยๆ กระจายไปยังเมืองรองก็ได้ แต่ตอนนี้เราต้องสร้างทางลัดให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด
“ปีหน้าเราต้องเน้นการยกระดับฐานราก โดยวิธีการที่ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ตัวสินค้า แต่เริ่มจากพื้นที่ ผลผลิต ความร่วมมือในชุมชน ผลักความก้าวหน้าเข้าไปยังเมืองรอง เพราะเรามีแหล่งท่องเที่ยวเยอะ แต่กลับไม่ได้ทะลุทะลวงลงไป ซึ่งต้องจัดลำดับความสำคัญ เพราะบางแห่งทำได้ทันที บางแห่งต้องใช้เวลา ผมยกตัวอย่าง ที่ จ. เพชรบุรี มีวัดเก่าแก่เยอะมาก ขนมก็อร่อย แต่กลับเป็นเพียงทางผ่านที่ถูกลืม นายกเทศบาลต่างๆ ต้องกลับไปคิดว่าจะทำอย่างไร หมู่บ้านไหนสามารถทำได้ต้องชี้เป้ามาให้ชัด อีกอย่างการเที่ยวโดยรถไฟก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ อย่าเพิ่งฝันถึงสนามบิน เพราะต้องใช้เวลาเป็นปี ตอนนี้กรมทางหลวงชนบทเข้าไปลาดยางมะตอยทำถนนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวให้ได้ก่อน ในเรื่องจุดแวะพักก็สำคัญ เดินทางไปเขาค้อ 4 ชั่วโมง สองข้างทางไม่มีอะไรเลย ททท. ต้องอย่าคิดแค่ปั๊ม ต้องผลักดันท้องถิ่นให้มีร้านค้าก็ส่งเสริมการกระจายรายได้ได้”
นายสมคิด กล่าวต่อว่า เราต้องฟื้นฟูและสร้างเรื่องราวเอกลักษณ์ในแต่ละชุมชนให้น่าสนใจ ร้านโอท็อปไม่จำเป็นเลย เราต้องสร้างคุณค่าให้นักท่องเที่ยวเข้าไปยังแหล่งผลิต ซึ่งเราจะต่อยอดสร้างแหล่งท่องเที่ยวชุมชนได้อีก อาหารไทยมีหลากหลาย ก็จัดทำให้มีคุณภาพกันเองเลย ไม่ต้องรอฝรั่งมามอบมิชลินสตาร์ ถ้าเราเอาจริงเอาจัง ผมจะเอาประชารัฐเข้ามาช่วยทุกท่าน ถ้าจังหวัดไหนทำนำร่องก็จะมีจังหวัดอื่นทำตามเอง
นายสมคิด กล่าวต่อว่า ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ซึ่งผมดูแลหลายกระทรวง จะพยายามให้มีการเกื้อกูลกันและกันให้มากที่สุด ขณะนี้เราพ้นบ่วงอุปสรรคจาก 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อน อียูก็ให้การยอมรับเราแล้ว ผมเชื่อว่าจะเป็นสถานการณ์ที่ช่วยเอื้อเราในอนาคตแน่นอน และในขณะนี้ผมก็พยายามเคลียร์งานให้เสร็จ เรื่องรถไฟไทย – จีน ก็ลงเสาแน่สัปดาห์หน้า รถไฟรางคู่ก็ผลักดันเข้า ครม. เร็วๆ นี้ เรื่องการบินไทย แอร์บัส ก็แน่นอนภายในศุกร์นี้ ปีนี้ประเทศเราถือว่าปรับฐาน ซึ่งเราก็เข้าใกล้มาเลเซียมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่เขาทิ้งเราเป็น 10 – 20 ปี ผมการันตีว่าปีหน้าเราเทกออฟแน่นอน ถ้าไม่เหยียบตาปลากันเอง
ในเรื่องของกีฬา นายสมคิดกล่าวว่า เราต้องพัฒนาศักยภาพตั้งแต่เด็กและเยาวชน เพราะเป็นวัยที่กำลังตื่นตัว ส่วนรายละเอียดอื่นเรื่องกีฬาก็ต้องรอ พล.อ. ประวิตร ก่อน แล้วจะมาประชุมกันทีเดียว
ภายหลังจากการแถลงมอบนโยบายการดำเนินงาน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว. การท่องเที่ยวฯ ได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ตั้งแต่วันแรกที่ผมก้าวเข้ามา ก็ได้เหลือพื้นที่ไว้ให้นโยบายของท่านรองนายกฯอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากได้ฟังนโยบายในวันนี้ ก็ได้คาดเดาไว้แล้วว่าต้องสอดคล้องกับนโยบายที่ตั้งไว้ ทั้งเรื่องพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและชักชวนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปยังชุมชน ซึ่งหากทุกคนร่วมมือกัน เราจะมีความสุขในฐานะเจ้าบ้านที่ดีแน่นอน
