นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2559 จะเติบโตในระดับ 3.5% เนื่องจากรัฐบาลไขทุกก๊อก เช่น เริ่มโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้รวดเร็วขึ้น และมาตรการช่วยเหลือเศรษฐกิจ เมื่อเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจจะเริ่มหมุนเวียนทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีมาตรการหนุนการใช้จ่ายในประเทศ จูงใจเรื่องการท่องเที่ยวมาเสริมด้วย
“เศรษฐกิจปี 2558 น่าจะโตได้ในระดับ 3% เศรษฐกิจปี 2559 ถ้าไม่ถึง 3% คงต้องเอาปี๊บคลุมหัว มันต้องดีขึ้นอย่างเช่น 3.5% และอย่างดีที่สุดน่าจะถึง 4% แต่ในระดับ 4% คงต้องให้เวลาสัก 2 ปี จะโตพรวดพราดไม่ได้เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีมากนัก ถ้าได้ระดับ 3.5% ถือว่าสอบผ่านขั้นที่ 1 แล้ว ซึ่งเชื่อว่าปีนี้ได้ 3% แน่นอน และยิ่งลงทุนต่อทำให้เกิดการหมุนเวียน การเร่งเบิกจ่ายเชื่อว่าปีนี้น่าจะทำได้ดีขึ้นในระดับ 3.5% ขณะที่สินเชื่อคาดว่าจะเติบโตประมาณ 6-7%” นายบัณฑูรกล่าว
นายบัณฑูรกล่าวว่า สำหรับความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีนในมุมมองคือ ทุกประเทศไม่ได้คาดหวังว่าการเติบโตของจีนจะช่วยดึงการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศตัวเองเหมือนในอดีต แต่การเติบโตที่ชะลอลงถือเป็นวัฏจักรของเศรษฐกิจที่อาจไม่โตในระดับ 10% ไปโดยตลอด แต่โดยรวมเศรษฐกิจจีนยังมีศักยภาพที่ดี ส่วนระดับหนี้เสียหรือหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เป็นเรื่องปกติ หากรักษาความสมดุลการปล่อยสินเชื่อคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจ เอ็นพีแอลจะควบคุมได้ ส่วนจะอยู่ในระดับสูงสุดหรือยังนั้น ขึ้นอยู่กับมาตรการของรัฐว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและเศรษฐกิจในประเทศได้เพียงใด หากได้ผลเอ็นพีแอลก็ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้
นายบัณฑูรกล่าวว่า ส่วนเรื่องภัยแล้งก็ถือว่าน่าเป็นห่วงมาก เพราะกระทบต่อผู้ที่อยู่ในระดับฐานรากของระบบเศรษฐกิจ เกษตรกรเพาะปลูกไม่ได้เต็มที่ ซึ่งรัฐบาลเริ่มสื่อความลงไปในระบบแล้วว่าการจัดการน้ำในปีนี้จะเป็นอย่างไร ขณะที่การลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศในระบบการเมืองของไทยในปัจจุบัน มองว่านักลงทุนมีมุมมองต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ยังมองดีขึ้น คนยังมาท่องเที่ยวและลงทุนต่อเนื่อง